ระหว่างนี้ ฝ่าย กมธ.มีมติให้ส่งหนังสือถึงพรรคการเมือง เพื่อสอบถามความชัดเจนว่า เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยในประเด็นใด เพื่อนำไปปรับปรุงร่างกฎหมายควบคุมกัญชา เพื่อเตรียมความพร้อมพิจารณาวาระ 2-3 หลังเปิดสภาเดือน พ.ย.
ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาครั้งสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ในเดือน พ.ย.2565 ยังต้องจับตาการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับ โดยเฉพาะ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง... พ.ศ.... ที่ถูกถอนออกจากวาระการประชุมช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
เหตุผลหนึ่งที่เสียงส่วนใหญ่ของสภาส่งร่างกฎหมายให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาอีกครั้ง มาจากแรงต้านของ 2 พรรคใหญ่ ‘ประชาธิปัตย์ - เพื่อไทย’ ที่เห็นว่า สาระสำคัญยังมีความหละหลวม สุ่มเสี่ยงให้การกำกับดูแลกัญชามีความไม่ครอบคลุมเพียงพอ
แม้ว่าร่างกฎหมายที่เพิ่งถูกตีกลับจากสภา จะมีการเพิ่มรายละเอียดในชั้น กมธ.เป็น 95 มาตรา ซึ่งเป็นการปรับปรุงรายละเอียดจากเดิม 44 มาตราที่ผ่านชั้นรับหลักการไปก่อนหน้านี้
- ผ่าร่าง พ.ร.บ.กัญชา ครัวเรือนปลูกฟรี ผลิต-ขายไม่ขออนุญาต คุก 3 ปี ปรับ 3 แสน
- สภามีมติถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ออกจากวาระการประชุมให้ กมธ.ทบทวนรายละเอียดใหม่
แม้ว่าขณะนี้จะมีกฎหมายในการกำกับดูแลบางส่วน แต่ต้องยอมรับว่า เมื่อร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ยังไม่มีผลบังคับใช้ การกับดูแลเรื่องนี้จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นช่วงสุญญากาศ
ระหว่างนี้ ฝ่าย กมธ.มีมติให้ส่งหนังสือถึงพรรคการเมือง เพื่อสอบถามความชัดเจนว่า เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยในประเด็นใด เพื่อนำไปปรับปรุงร่างกฎหมายควบคุมกัญชา เพื่อเตรียมความพร้อมพิจารณาวาระ 2-3 หลังเปิดสภาเดือน พ.ย.
นับถอยหลัง 30 วันสุดท้าย ก่อนเปิดสภาผู้แทนราษฎร สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวม 95 มาตราที่ถูกปรับปรุงแก้ไขรอบแรกในชั้น กมธ. มีสาระสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้
ให้ อย. ส่งเสริมความรู้-สนับสนุนการศึกษาวิจัยกัญชา
เพื่อส่งเสริมกัญชา กัญชง หรือสารสกัดให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์หรือทางวิทยาศาสตร์และพืชเศรษฐกิจ รวมทั้งคุ้มครองสุขภาพของบุคคล ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้
1.สนับสนุนประชาชนในการเพาะปลูก หรือแปรรูป เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ และการพัฒนาให้เป็นพืชที่มีมูลค่าในทางเศรษฐกิจ
2.ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย ทั้งการเพาะปลูก แปรรูป หรือสารสกัด หรือการพัฒนาสายพันธุ์ การผลิต การจัดการ และการตลาด รวมทั้งเพื่อการใช้ประโยชน์และโทษในการคุ้มครองสุขภาพของบุคคล
3.ให้ความรู้ จัดทำเอกสารและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ คำแนะนำ คู่มือ หนังสือวิชาการ หรือเอกสารอื่นใดที่ส่วนราชการจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในการใช้ประโยชน์โดยไม่ต้องเสียค่าเอกสาร
รมว.สธ.นั่งประธาน กก.กัญชาฯ จากเดิมเป็นปลัด สธ.
ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการกัญชา กัญชง” โดยให้ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ (จากเดิมเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
และมีกรรมการโดยตำแหน่ง 16 คน ได้แก่ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมอนามัย นายแพทยสภา นายกสภาการแพทย์แผนไทย นายกสภาเภสัชกรรม ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในด้านกฎหมาย ด้านการเกษตรและพันธุ์พืช ด้านการตลาด ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านวิจัยและพัฒนา และด้านสมุนไพร ด้านละ 1 คน และต้องตั้งจากเอกชนไม่น้อยกว่า 3 คน
ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ เสนอนโยบายและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการควบคุมส่งเสริมกัญชา กัญชง สารสกัด และคุ้มครองสุขภาพของประชาชน กำหนดมาตรการส่งเสริมวิจัย พัฒนา การใช้ทั้งด้านการแพทย์ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และประโยชน์อื่นๆ รวมถึงประกาศกำหนดสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ในกัญชง ตามมาตรา 4
ปลูก ผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย ต้องขออนุญาต
ผู้ใดประสงค์จะเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชง หรือผลิต นำเข้า ส่งออก หรือขายกัญชา กัญชง หรือสารสกัด ต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
โดยการขอรับใบอนุญาต ต้องแจ้งความประสงค์ ดังต่อไป 1.เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ 2.เพื่อประโยชน์ในทางวิทยาศาสตร์ การศึกษา วิเคราะห์ หรือวิจัย 3.เพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม
นอกจากนี้ยังกำหนดให้การขอรับใบอนุญาตเพาะปลูก แบ่งตามขนาดพื้นที่ ดังต่อไปนี้ 1.พื้นที่ขนาดเล็กไม่เกิน 5 ไร่ 2.พื้นที่ขนาดกลาง 5-20 ไร่ และ 3.พื้นที่ขนาดใหญ่เกิน 20 ไร่ขึ้นไป
ผู้ใดเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีขนาดเล็ก พื้นที่ปลูกไม่เกิน 5 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีขนาดกลางและขนาดใหญ่ พื้นที่ปลูกตั้งแต่ 5 ไร่ขึ้นไป หรือผลิต ส่งออก หรือขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ การนำเข้าหรือส่งออกของผู้รับอนุญาตในแต่ละครั้งต้องได้รับใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกเฉพาะคราวจากผู้อนุญาตทุกครั้งด้วย
ผู้ขอรับใบอนุญาต ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร และไม่มีลักษณะต้องห้าม คือ บุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือ อยู่ระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาต หรือ เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตภายในระยะเวลา 1 ปี หรือ เคยถูกเพิกถอนใบรับจดแจ้ง หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปีก่อนยื่นคำขอรับใบอนุญาต
กรณีเป็นนิติบุคคล ต้องมีสัญชาติไทย มีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย และไม่มีลักษณะต้องห้ามข้างต้นเช่นกัน
สำหรับใบอนุญาตให้มีอายุ 3 ปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต
ผู้ใดนำเข้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกกัญชา แต่ไม่ได้รับใบอนุญาตในแต่ละครั้ง ระวางโทษปรับครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท
จดแจ้งปลูกใช้ในครัวเรือนไม่เกิน 15 ต้น
ผู้ใดประสงค์เพาะปลูกกัญชาหรือกัญชงเพื่อใช้ประโยชน์ในครัวเรือนไม่เกินครัวเรือนละ 15 ต้น ต้องจดแจ้งต่อผู้รับจดแจ้ง และเมื่อผู้รับจดแจ้งออกใบรับจดแจ้งให้แล้ว จึงจะดำเนินการได้
กรณีประสงค์จะเพาะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากราก ลำต้น หรือเส้นใยในครัวเรือนไม่เกินครัวเรือนละ 5 ไร่ ต้องจดแจ้งต่อผู้รับแจ้ง และเมื่อออกใบรับจดแจ้งให้แล้ว จึงจะดำเนินการนั้นได้
สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ประสงค์จะเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชงในจำนวนที่จำเป็นเพื่อใช้ปรุงยา สำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายของตนหรือสัตว์ที่ให้การรักษา แล้วแต่กรณี ต้องจดแจ้งต่อผู้รับจดแจ้งและเมื่อผู้รับจดแจ้งให้แล้ว จึงจะดำเนินการนั้นได้
ใบจดแจ้งให้มีอายุ 1 ปีนับแต่วันที่ออกใบรับจดแจ้ง
ผู้ใดปลูกโดยไม่ได้รับใบจดแจ้ง ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
จดแจ้งปลูกในครัวเรือน ห้ามนำไปขายโดยไม่ขอใบอนุญาต
ผู้จดแจ้ง มีหน้าที่ ดังนี้
1.ห้ามขายกัญชาหรือกัญชงที่ได้มาจากการเพาะปลูกตามใบรับจดแจ้ง
2.จัด้ให้มีสถานที่เพาะปลูกที่มีมาตรการป้องกันมิให้บุคคลตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง (อายุต่ำกว่า 20 ปี , สตรีมีครรภ์ , สตรีให้นมบุตร , บุคคลอื่นตาที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด)
3.เพาะปลูกตามจำนวนหรือขนาดพื้นที่ที่จดแจ้ง ณ สถานที่ที่ระบุไว้ในใบรับจดแจ้ง
4.ดำเนินการตามแผนเพาะปลูก กรณีที่ไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ ให้แจ้งขอปรับแผนต่อผู้รับจดแจ้งเพื่อพิจารณาภายใน 30 วัน
5.จัดทำรายงานการดำเนินการตามที่ได้รับใบรับจดแจ้งเสนอต่อเลขาธิการทราบเป็นรายปี
6.ปฏิบัติการตามมาตรการคุ้มครองบุคคลซึ่งอาจได้รับอันตรายจากการบริโภคกัญชา กัญชง หรือสารสกัด และการป้องกันการใช้ในทางที่ผิด
7.ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ทำผิดกฎเกณฑ์ถูกสั่งพัก-เพิกถอนใบอนุญาตคราวละไม่เกิน 180 วัน
เมื่อปรากฏแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้รับอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข กำหนดให้เจ้าพนักงานมีอำนาจสั่งให้ผู้รับอนุญาตนั้นดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด หากไม่ดำเนินการ ให้พิจารณาพักใช้ใบอนุญาต หรือ ใบจดแจ้ง
การสั่งพักใช้ใบอนุญาต หรือ ใบจดแจ้ง มีกำหนดครั้งละไม่เกิน 180 วัน หรือกรณีที่มีการฟ้องผู้รับอนุญาตต่อศาลว่าได้กระทำความผิดกฎหมายนี้จะสั่งพักใช้ใบอนุญาตจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดก็ได้
ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือผู้ถูกเพิกถอนใบรับจดแจ้ง จะขอรับใบอนุญาตหรือขอจดแจ้งใดๆ ตามกฎหมายนี้อีกไม่ได้ จนกว่าจะพ้น 1 ปี
อุทธรณ์คำสั่งใน 30 วัน คำวินิจฉัยรัฐมนตรีถือเป็นที่สุด
กรณีที่ผู้อนุญาตหรือผู้รับจดแจ้งไม่ออกใบอนุญาตหรือใบรับจดแจ้ง หรือไม่ต่ออายุ มีสิทธิ์อุทธรณ์เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง โดยคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
ระหว่างพิจารณาอุทธรณ์คำสั่ง รัฐมนตรีมีอำนาจสั่งอนุญาตให้ผู้รับอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกกัญชา กัญชง หรือสารสกัด ดำเนินการเฉพาะคราวไปพลางก่อนได้
กำหนดให้รัฐมนตรีพิจารณาอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ ถ้ามีเหตุจำเป็นไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จในเวลาดังกล่าว ให้ขยายเวลาออกไปได้ไม่เกิน 60 วัน
ห้ามโฆษณาช่อดอก-อุปกรณ์การสูบ
ห้ามโฆษณาหรือสื่อสารการตลาดเกี่ยวกับช่อดอกหรือยางของกัญชา สารสกัด หรือเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูบ
ส่วนการโฆษณาประเด็นอื่น ต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม
สำหรับข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือเป็นข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ประกอบด้วย 1.ข้อความที่เป็นเท็จเกินความจริง 2.ข้อความที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงว่าสามารถบำบัดรักษา บรรเทาหรือป้องกันโรคหรือความเจ็บป่วยได้อย่างศักดิ์สิทธิ์หรือตามความเชื่อ 3.ข้อความที่เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ
หากเห็นว่าโฆษณาใดฝ่าฝืนข้างต้นให้ออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้โฆษณาระงับการโฆษณา
หากฝ่าฝืน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้นยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
ห้ามขายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี - สตรีมีครรภ์
ห้ามผู้ใดขายกัญชา กัญชง สารสกัด หรืออาหาร เป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ในทางการค้าหรือให้โดยมีสิ่งตอบแทนหรือผลประโยชน์อื่นหรือไม่ก็ตาม กับบุคคล 4 กลุ่ม ดังนี้
1.บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 2.สตรีมีครรภ์ 3.สตรีให้นมบุตร 4.บุคคลอื่นใดตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ผู้ขายมีหน้าที่ปิดประกาศหรือแจ้ง ณ สถานที่ขายหรือผ่านช่องทางการขายให้ทราบถึงข้อห้ามขายแก่บุคคลข้างต้น รวมทั้งคำเตือนในการบริโภคตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ไม่ให้ใช้บังคับแก่อาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารตามชนิดและประเภทที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ผู้ใดฝ่าฝืนขายให้บุคคล 4 กลุ่มนี้ ระวางโทษเป็นสองเท่าของอัตราโทษที่ได้รับ
ห้ามขายช่อดอก ยาง หรือสารสกัดกัญชา-กัญชง
ห้ามผู้ใดขายกัญชา กัญชง ที่มิใช่ราก ลำต้น เส้นใย หรือเมล็ด สารสกัด หรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีกัญชา กัญชง หรือสารสกัด เป็นวัตถุดิบ หรือส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ในทางการค้าหรือให้โดยมีสิ่งตอบแทน ดังต่อไปนี้
1.ขายโดยใช้เครื่องขาย 2.ขายช่อหรือยางโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ 3.ขายช่อดอกหรือยางของกัญชา หรือสารสกัดเพื่อการสูบโดยวิธีการแจก แถม ให้ หรือแลกเปลี่ยนกับสินค้า การให้บริการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นแล้วแต่กรณี
4.ขายสินค้าหรือให้บริการโดยมีการแจก แถม ให้หรือแลกเปลี่ยนกับช่อดอก หรือยาง หรือสารสกัด แล้วแต่กรณี 5.เร่ขายช่อดอกหรือยางของกัญชาหรือกัญชง หรือสารสกัด 6.ให้หรือเสนอให้สิทธิในการเข้าชมการแข่งขัน การแสดง การให้บริการ การชิงโชค การชิงรางวัล หรือสิทธิประโยชน์อื่นแก่ผู้ซื้อช่อดอก ยางของกัญชา หรือกัญชง หรือสารสกัด
7.แสดงราคา ณ จุดขายในลักษณะจูงใจให้บริโภคช่อดอก หรือยางของกัญชา หรือกัญชงหรือสารสกัด 8.ดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมการขายช่อดอกหรือยางของกัญชา หรือกัญชง หรือสารสกัด ด้วยประการใดๆ
หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน - 1 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี
ห้ามขายกัญชาในวัด สถานศึกษา หอพัก สวนสาธารณะ
ห้ามผู้ใดขายกัญชา กัญชงที่มิใช่ราก ลำต้น เส้นใยหรือเมล็ด หรือสารสกัด ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ในทางการค้าหรือให้โดยมีสิ่งตอบแทน หรือผลประโยชน์อื่นหรือไม่ก็ตาม ในสถานที่ ดังต่อไปนี้
1.วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา 2.สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ 3.หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก 4.สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก 5.สถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
8 สถานที่ห้ามสูบกัญชา
ห้ามผู้ใดสูบกัญชา กัญชง หรือสารสกัดในที่สาธารณะและสถานที่หรือบริเวณ ดังต่อไปนี้
1.วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา 2.สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ 3.ร้านขายยาตามกฎหมายว่าด้วยยา 4.สถานที่ราชการ เว้นแต่บริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล
5.สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ 6.สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง 7.สวนสาธารณะของทางราชการ สวนสัตว์ สวนสนุก 8.ร้านอาหาร สถานที่ของผู้รับอนุญาตที่มิใช่สถานที่ตาม (2) และยานพาหนะส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของสถานที่และยานพาหนะ หรือสถานที่อื่นใดตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ
ห้ามขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมา
รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอาจประกาศกำหนดให้มีเขตหรือสถานที่กัญชา ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด
ห้ามจูงใจ ชักนำ ยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือขืนใจให้บริโภคหรือใช้กัญชา กัญชง หรือสารสกัด
ห้ามผู้ใดขับขี่ยานพาหนะในขณะมึนเมากัญชา กัญชง สารสกัด หรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีกัญชา กัญชง หรือสารสกัด เป็นวัตถุดิบ หรือส่วนประกอบ
กรณีที่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าผู้ขับขี่ยานพาหนะมีอาการมึนเมากัญชา กัญชง สารสกัด หรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีกัญชา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายในการควบคุม ดูแล หรือกำกับการจราจรและความปลอดภัยของยานพาหนะมีอำนาจสั่งให้ผู้ขับขี่หยุดยานพาหนะและสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ดังกล่าวว่ามึนเมากัญชา กัญชง หรือสารสกัดหรือไม่
หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
เจ้าหน้าที่มีอำนาจอายัด-ตรวจยึด
เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ ดังต่อไปนี้
1.เข้าไปในสถานที่เพาะปลูก สถานที่ผลิต สถานที่นำเข้า สถานที่ส่งออก สถานที่ขาย เพื่อตรวจสอบหรือควบคุมเท่าที่จำเป็นตามกฎหมาย
2.นำกัญชา กัญชง สารสกัด หรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีกัญชา กัญชง หรือสารสกัด เป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบ ในจำนวนหรือปริมาณพอสมควรไป เพื่อเป็นตัวอย่างในการตรวจสอบหรือวิเคราะห์
3.ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมาย อาจเข้าไปในสถานที่หรือยานพาหนะใดๆ เพื่อตรวจ ค้น ยึด หรืออายัดกัญชา กัญชง สารสกัด
4.มีหนังสือเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสารหรือหลักฐานเท่าที่จำเป็นเพื่อประกอบการพิจารณาของพนักงานเจ้าหน้าที่
กรณีสิ่งที่ยึดหรืออายัดเป็นของเสียง่าย เป็นของที่ใกล้จะสิ้นอายุตามที่กำหนด หรือในกรณีที่เก็บไว้จะเป็นการเสี่ยงต่อความเสียหายหรือจะเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาเกินค่าของสิ่งนั้น ให้จัดการขายทอดตลาดสิ่งนั้นก่อนคดีถึงที่สุดหรือก่อนที่สิ่งนั้นจะตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุขก็ได้
สิ่งที่ยึดหรืออายัดให้ตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปรากฏว่า
1.ไม่มีปรากฏเจ้าของ หรือไม่มีผู้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้ยึดหรืออายัด
2.ในกรณีที่ไม่มีการดำเนินคดีและผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองมิได้ร้องขอคืนภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองได้รับแจ้งคำสั่งว่าไม่ดำเนินคดี
3.กรณีที่มีการดำเนินคดี และพนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีหรือศาลไม่ได้พิพากษาให้ริบ และผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองมิได้ร้องขอคืนภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ทราบคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือวันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด แล้วแต่กรณี
บทเฉพาะกาล
วาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการประกอบด้วย รมว.สาธารณสุข และ กรรมการโดยตำแหน่ง และให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการตามกฎหมายนี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งต้องไม่เกิน 90 วันนับแต่วันที่กฎหมายใช้บังคับ
เมื่อกฎกระทรวงเกี่ยวกับการเพาะปลูกใช้บังคับ ให้ผู้เพาะปลูกกัญชาหรือกัญชง หรือผลิต นำเข้า ส่งออก หรือขายกัญชา กัญชง หรือสารสกัด เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ เพื่อประโยชน์ในทางวิทยาศาสตร์ การศึกษา วิเคราะห์ หรือวิจัย หรือเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 15 ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่กฎกระทรวงนั้นมีผลใช้บังคับ
เมื่อกฎกระทรวงเกี่ยวกับการจดแจ้งใช้บังคับ ให้ผู้เพาะปลูกกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ในครัวเรือนหรือเพาะปลูกกัญชงเพื่อใช้ประโยชน์จากราก ลำต้น หรือเส้นใยในครัวเรือน หรือสถานพยาบาลตามกฎหมาย อยู่ในวันก่อนที่กฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ยื่นคำขอจดแจ้งภายใน 180 วัน นับแต่วันที่กฎกระทรวงนั้นมีผลใช้บังคับ
อัตราค่าธรรมเนียม
1.ใบอนุญาตเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชง ฉบับละ 50,000 บาท
2.ใบอนุญาตผลิตกัญชา กัญชง หรือสารสกัด ฉบับละ 50,000 บาท
3.ใบอนุญาตนำเข้ากัญชา กัญชง หรือสารสกัด ฉบับละ 100,000 บาท
4.ใบอนุญาตส่งออกกัญชา กัญชง หรือสารสกัด ฉบับละ 10,000 บาท
5.ใบอนุญาตนำเข้า เฉพาะคราวกัญชา กัญชง หรือสารสกัด ฉบับละ 20,000 บาท
5/1 ใบอนุญาตส่งออกเฉพาะคราว กัญชา กัญชง หรือสารสกัด ฉบับละ 2,000 บาท
6.ใบอนุญาตขายกัญชา กัญชง หรือสารสกัด ฉบับละ 5,000 บาท
7.การต่ออายุใบอนุญาต ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตนั้น
ทั้งหมดเป็นสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ที่มีการแก้ไขในชั้น กมธ.จาก 44 มาตราเป็น 95 มาตรา แต่ยังต้องติดตามดูต่อว่า ก่อนเปิดสภาในเดือน พ.ย.นี้ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายอีกครั้งของ กมธ.จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร