"...การจัดซื้อแท็บเล็ตของ สลค. เป็นการซื้อทดแทนของเดิมที่ใช้งานมานานแล้ว เพื่อรองรับภารกิจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะช่วยให้สามารถเรียกดูและเก็บเอกสารวาระ ครม. จำนวนมาก ลดปริมาณการใช้กระดาษที่สัปดาห์หนึ่งต้องใช้ถึง 7,650 แผ่น และรักษาความลับทางราชการที่อาจส่งผลเสียต่อประเทศได้ หรือ นายจิรัฏฐ์ต้องการให้ราชการไทยทำงานแบบเก่าและใช้เครื่องมือแบบห่วย ๆ อย่างนั้นหรือ..."
"ความจริงผมไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด แต่ข้าราชการที่เขาตั้งใจทำงานต้องมารับเคราะห์และเสียหาย ไม่มีโอกาสพูดออกสื่อ และอยากให้ ตั้งสติ ศึกษาหาความรู้ให้แม่นยำ อย่าหุนหันพลันแล่นโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน ใช้สมองส่วนหน้าคิดอย่าใช้แต่สมองส่วนหลัง"
"การจัดซื้อแท็บเล็ตของ สลค. เป็นการซื้อทดแทนของเดิมที่ใช้งานมานานแล้ว เพื่อรองรับภารกิจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะช่วยให้สามารถเรียกดูและเก็บเอกสารวาระ ครม. จำนวนมาก ลดปริมาณการใช้กระดาษที่สัปดาห์หนึ่งต้องใช้ถึง 7,650 แผ่น และรักษาความลับทางราชการที่อาจส่งผลเสียต่อประเทศได้ หรือ นายจิรัฏฐ์ต้องการให้ราชการไทยทำงานแบบเก่าและใช้เครื่องมือแบบห่วย ๆ อย่างนั้นหรือ"
"สำหรับแท็บเล็ตของ สลค. 130 เครื่อง แบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยทั้งหมดรวมเป็นงบประมาณที่เสนอขอทั้งสิ้น 8,239,000 บาท ไม่ใช่ 10,000,000 บาท"
คือ คำชี้แจงของ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาตอบโต้ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล เกี่ยวกับประเด็นการจัดซื้อ iPad Pro 130 เครื่อง โดยใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท
ภายหลังจากนายจิรัฏฐ์ ออกมาขอยอมรับว่า กล่าวชื่อหน่วยงานผิด และขออภัยในความผิดพลาด แต่ยืนยันว่าในรายละเอียดถูกต้องทั้งหมด รวมถึงหน่วยงานที่จัดซื้อดังกล่าวก็เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน พร้อมระบุว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) คือหน่วยงานที่จัดซื้อ iPad Pro แพงเกินความจำเป็น สเปคระดับงานเขียนโปรแกรม ไม่ใช่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) อย่างที่กล่าวผิดไปในตอนแรก
“ส่วนที่บอกว่าสั่งซื้อ iPad pro ตัวท็อปก็ไม่ผิดแน่ ถูกต้องตามเอกสารทุกอย่าง 130 เครื่อง แถมเมื่อตรวจสอบเพิ่ม เหมือนจะมีมูลว่าจะไม่ใช่ 130 เครื่อง แต่เป็น 210 เครื่อง เพราะว่าเอกสารที่นำมาชี้แจงมี 2 ชุด ชุดหนึ่ง 130 เครื่อง ชุดหนึ่ง 210 เครื่อง” นายจีรัฏฐ์ ระบุ
เพื่อตรวจสอบยืนยันข้อเท็จจริงทั้งในส่วนของ นายธนกร วังบุญคงชนะ และ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ เกี่ยวกับประเด็นการจัดซื้อแท็บเล็ตของ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ดังกล่าว
สำนักข่าวอิศรา สืบค้นฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างของ สลค. พบว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2565 เว็บไซต์ สลค. ได้เผยแพร่ข้อมูลการจัดซื้อแท็บเล็ตของ สลค. 130 เครื่อง แบ่งเป็น 3 กลุ่ม วงเงินรวม 8,239,000 บาท เป็นทางการ
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ในการจัดหาคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตตามโครงการจัดหาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทดแทนระบบเดิม ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในปี 2566 เป็นการจัดหาเพื่อทดแทนของเดิมที่ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2560 และเพื่อให้สามารถรองรับการปฏิบัติงานสำหรับคณะรัฐมนตรีทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้โดยแบ่งการใช้งาน
ตามกลุ่มผู้ใช้งาน 3 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มที่ 1
เป็นคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตแบบที่ 1 จำนวน 80 เครื่อง สำหรับคณะรัฐมนตรีผู้เข้าร่วม ประชุมและเจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อใช้เรียกดูระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยระบบ M-VARA ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้พัฒนาขึ้น เมื่อปี 2556 เพื่อให้คณะรัฐมนตรีและผู้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสามารถเรียกดูเอกสารระเบียบวาระ การประชุมคณะรัฐมนตรีได้จากคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต
ประกอบด้วย เอกสารที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา และเอกสารประกอบเรื่องทั้งหมด รวมถึงความเห็นหน่วยราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นข้อมูลสำคัญและเป็นข้อมูลความลับ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงพัฒนา บนระบบปฏิบัติการ iOS ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสูง และจัดหาเครื่องที่มีน้ำหนักเบาเพื่อให้การขนย้ายและติดตั้งทำได้สะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะการขนย้ายกรณีนำไปใช้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร)
โดยมีคุณลักษณะพื้นฐาน ดังนี้
1.1 มีขนาดจอ 12-13 นิ้ว เนื่องจากเป็นการอ่านไฟล์เอกสารจำนวนมากในระหว่างการประชุม จึงมีความจำเป็นต้องใช้หน้าจอขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถอ่านไฟล์เอกสารได้สะดวกและชัดเจนยิ่งขึ้น
1.2 สามารถเรียกดูระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์และข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อาทิวีดิทัศน์ข้อมูลแผนที่ ซึ่งสามารถเรียกดูวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีย้อนหลังได้ และรองรับการจัดเก็บข้อมูลได้ไม่น้อยกว่า 4 ปี
หมายเหตุ งบประมาณที่ตั้งไว้รวม 5,136,000 บาท
2. กลุ่มที่ 2
เป็นคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตแบบที่ 2 จำนวน 25 เครื่อง สำหรับผู้บริหารของสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีโดยมีคุณลักษณะพื้นฐาน ดังนี้
2.1 สามารถเรียกดูระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ M-VARA ได้จึงจำเป็นต้องมีขนาดจอที่สามารถอ่านเอกสารได้สะดวก
2.2 สามารถปฏิบัติงานทั้งในและนอกสถานที่ได้
2.3 ใช้กับระบบสารสนเทศของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเช่น ระบบฐานข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี ที่สามารถเรียกดูได้ตั้งแต่ปี 2475 ระบบฐานข้อมูลทะเบียนฐานันดรผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทั้งหมด ระบบราชกิจจานุเบกษาที่ประกาศให้ประชาชนทราบ และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้
หมายเหตุ : งบประมาณที่ตั้งไว้รวม 1,712,000 บาท
3. กลุ่มที่ 3
เป็นคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตแบบที่ 3 จำนวน 25 เครื่อง สำหรับการใช้ประชุมคณะกรรมการอื่น ๆ ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นฝ่ายเลขานุการ รวมถึงการประชุมภายในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดย สามารถใช้ระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android สำหรับการเปิดเอกสารทั่วไปได้มีน้ำหนักเบา และสะดวกในการ ติดตั้ง เนื่องจากเป็นเครื่องส่วนกลางที่ทุกหน่วยงาน ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีสามารถเบิกไปใช้ในการประชุมแบบลดเอกสารได้ซึ่งมีคุณลักษณะพื้นฐาน ดังนี้
3.1 มีขนาดจอ 10-12 นิ้ว ส าหรับเรียกดูข้อมูลการประชุมและข้อมูลอื่น ๆ ในระหว่างการประชุม
3.2 ใช้กับระบบสารสนเทศของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเช่น ระบบฐานข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี ที่สามารถเรียกดูได้ตั้งแต่ปี 2475 ระบบฐานข้อมูลทะเบียนฐานันดรผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทั้งหมด ระบบราชกิจจานุเบกษาที่ประกาศให้ประชาชนทราบ และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้
หมายเหตุ : งบประมาณที่ตั้งไว้รวม 1,391,000 บาท
ทั้งนี้ งบประมาณที่ตั้งไว้ในการจัดหาคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต รวมทั้งสิ้น 8,239,000 บาท
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับ ระบบ M-Vara คือ ระบบงานบริหารจัดการและเรียกดูระเบียบวาระการประชุม โดยสามารถใช้งานได้ ผ่าน เว็บบราวเซอร์และแอพพลิเคชั่น บน iPad
ส่วนรายละเอียดร่างทีโออาร์ ผลการประกวดราคาโครงการ ปัจจุบันยังตรวจสอบไม่พบในฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างของ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
หากทราบรายละเอียดเป็นทางการแล้ว นำรีบนำมาเสนอให้สาธารณชนรับทราบต่อไป