"...พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะเป็นผู้เสนอชื่อ 'พล.อ.ประยุทธ์' เป็นคนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับลูก-พูดแทนนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยินดีและขอบคุณที่พรรคให้ความไว้วางใจ และขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งครั้งต่อไป..."
ทุกความเคลื่อนไหวทางการเมือง ทำให้เรื่อง 'เลือกตั้ง' ถูกหยิบมาพูดถึงเร็วกว่าที่คิด
เริ่มจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ออกอาการ 'สั่นคลอน' จากแรงสั่นสะเทือนของแกนหลัก-พรรคพลังประชารัฐ ผลพวงจากศึกซักฟอก ปลด 2 รัฐมนตรีคู่บารมี 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ลุกลามลือถึงข่าวรัก-ไม่รักใน 'กลุ่ม 3 ป.' ปรากฏภาพแบ่งคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมน้ำท่วม – ปรากฏข่าวลือตั้งพรรคใหม่ กลายเป็นคลื่นใต้น้ำสร้างแรงกระเพื่อมให้เห็นรายวัน
ส่วนรัฐมนตรีทั้ง 'แกนหลัก-แกนร่วม' ต่างจัดคิวลงพื้นที่แบบถี่ยิบ แม้ทุกภารกิจคือช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม แต่ย่อมถูกโยงพ่วงถึงการช่วงชิงคะแนนนิยม เพื่อเตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ไม่นับรวมวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่...) พุทธศักราช... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2564 ซึ่งจะครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 2 ม.ค.2565
ส่วนกระบวนการต่อไปในกลไกรัฐสภา คือการแก้ไขกฎหมายลูก 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง เพื่อให้สอดรับกับการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ที่มี ส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมเสนอสาระสำคัญ โดยอาศัยหลักการจาก รธน.แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) ปี 2554 วางหลักเกณฑ์คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะส่งผลให้ไม่มี 'ส.ส.ปัดเศษ' ดังที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งจาก รธน.ปี 2560
และคาดการณ์ว่ากระบวนการแก้ไขกฎหมายลูก 2 ฉบับในกลไกรัฐสภาจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนครึ่ง – 3 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ ระหว่างนี้จะยังไม่มีความเคลื่อนไหว จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
เมื่อเรื่อง 'เลือกตั้ง' ถูกพูดถึง นอกจากการชิงพื้นที่-คะแนนนิยมของแต่ละพรรคการเมืองแล้ว เวลานี้ยังมีชื่อ 'แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี' ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
'บิ๊กป้อม' ยัน พปชร.เสนอชื่อ 'บิ๊กตู่' นั่งนายกฯ
พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะเป็นผู้เสนอชื่อ 'พล.อ.ประยุทธ์' เป็นคนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกสมัย
ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับลูก-พูดแทนนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยินดีและขอบคุณที่พรรคให้ความไว้วางใจ และขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ปชป.เสนอ 'จุรินทร์' โวเพียบพร้อมรอบด้าน
ความเคลื่อนไหวจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ถูกเปิดเผยโดย นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรค ซึ่งยืนยันว่า 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค จะถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
"บุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์ก็มีความพร้อม เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับประเทศหลายคนที่ยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด จึงยืนยันได้ว่านายจุรินทร์ มีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี" นายนิพนธ์ กล่าว
เช่นเดียวกับ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวยืนยันว่า นายจุรินทร์ เป็นนักการเมืองที่ผ่านงานทางการเมืองทั้งงานในสภาในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) มีบทบาทในสภาอย่างเด่นชัด ส่วนงานฝ่ายบริหารก็ผ่านการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์สูงของพรรคคนหนึ่ง จึงได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรคให้เป็นหัวหน้าพรรค
'อนุทิน'แคนดิตเดตของภูมิใจไทย
ด้านพรรคภูมิใจไทย มีคำยืนยันจาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ว่าจะเสนอชื่อ 'อนุทิน ชาญวีรกูล' รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะที่นายอนุทิน กล่าวยอมรับว่า พรรคกรเมืองต้องเสนอหัวหน้าพรรคเป็นอันดับแรกไว้ก่อน ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำงานตามที่สัญญาไว้กับประชาชนและติดตามงานนโยบายต่างๆ เพราะอีกไม่เกิน 2 ปีก็ต้องมีการจัดการเลือกตั้งแน่นอน
'พิธา'พร้อมชิงเก้าอี้นายกฯ
'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศตัวพร้อมเป็น 'แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี' ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล
เขากล่าวว่า เหตุที่พรรคก้าวไกลลงพื้นที่พบประชาชนอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้ เป็นการส่งสัญญาณความพร้อมของพรรคให้เห็นกระบวนการทำงาน และตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เดินทางกว่า 2,000 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนทราบว่า ยังมีนักการเมืองที่เข้าใจความเดือดร้อน และพร้อมนำมาปรับปรุงเป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งต่อไป
'ไทยสร้างไทย' ชู 'สุดารัตน์' นายกฯหญิงคนต่อไป
ด้านพรรคไทยสร้างไทย อ้าง อีสานโพลระบุคนภาคอีสานต้องการให้ ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ ประธานพรรคไทยสร้างไทย มาเป็นนายกรัฐมนตรี
โดย นายพงศกร อรรณนพพร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ ระบุว่า อีสานโพล จัดทำโดยคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้สำรวจพบว่า คนภาคอีสานต้องการให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีมากถึง 24% เพื่อให้เข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เหนือความคาดหมาย เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาชนก็สนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์เป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน แต่มีข้อจำกัดจากกลไกรัฐธรรมนูญ 2560 จึงทำให้ไม่สามารถบริหารประเทศไทย
พรรคกล้าชูชื่อ 'กรณ์' เหมาะทำหน้าที่รับมือวิกฤติ
ส่วนพรรคกล้า โดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค เชื่อว่า วิกฤตโควิดที่ทำให้ประเทศได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ชื่อของ ‘กรณ์ จาติกวณิช’ หัวหน้าพรรคกล้า และอดีต รมว.คลังดู ดูจะเป็นชื่อที่เหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงสถานการณ์เช่นนี้
"สมัยที่เป็นรัฐมนตรีคลังก็ทำให้ไทยได้พ้นวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์มาแล้ว และจากที่ผมรู้จักคุณกรณ์มาเป็นสิบปี คุณกรณ์มีความคิดร่วมสมัย มีใจพร้อมรับฟังคนทุกรุ่น" นายอรรถวิชช์ กล่าว
ด้านพรรคไทยภักดี ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ มี 'นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม' ก็ประกาศตัวพร้อมรับไม้ต่อจาก 'บิ๊กตู่' ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และพร้อมสู้สนามเลือกตั้งในทุกกติกา
ปิดท้ายที่พรรคใหญ่-พรรคเพื่อไทย จนถึงเวลานี้ยังอุบชื่อแคนดิตนายกรัฐมนตรีเป็นความลับ ท่ามกลางการจับตาวาระประชุมใหญ่พรรค 28 ต.ค.2564 ที่อาจปรากฏความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage