ปตท. แจงไม่สามารถนำแอลกฮอลล์ที่มีให้กับสถานพยาบาลได้ เนื่องจากแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในสต็อก บางส่วนได้ผสมน้ำมันเบนซินมาแล้ว จึงนำไปในทางการแพทย์หรือใช้ทำความสะอาดเชื้อโรคไม่ได้
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2563 นายกฤษณ์ อิ่มแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่มีกระแสขอให้ ปตท. ส่งมอบแอลกอฮอล์ที่มีในสต็อกให้แก่สถานพยาบาลเพื่อนำมาผลิตเป็นเจลแอลกอฮอล์ สำหรับใช้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ภายในประเทศนั้น
ปตท. ขอเรียนว่า ปตท. โดย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) และบริษัทผู้ค้าน้ำมันในประเทศไทย ไม่มีสต็อกแอลกอฮอล์ ที่ใช้ในทางการแพทย์จัดเก็บอยู่ แต่เป็นแอลกอฮอล์ที่ได้ผสมน้ำมันเบนซินบางส่วนมาตั้งแต่รับซื้อจากผู้ผลิตแล้ว เนื่องจากต้องแปลงสภาพ (Denature) ทำให้มีกลิ่นน้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นไปตามการควบคุมของรัฐในการดูแลสต็อกแอลกอฮอล์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะนำไปผสมเป็นน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ประเภทต่างๆ ดังนั้น แอลกอฮอล์ที่ ปตท. มีสต็อกอยู่ในขณะนี้ จึงไม่สามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์หรือทำความสะอาดเชื้อโรคทั่วไปได้
ทั้งนี้ หลังจากกรมสรรพสามิตได้มีประกาศ 2 ฉบับ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขฯ เพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบที่มิได้ทำขึ้นเพื่อการจำหน่าย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 และ ประกาศฯ เพื่อขาย เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ซึ่งประกาศดังกล่าวช่วยปลดล็อคให้ผู้ผลิตสามารถบริจาคหรือจำหน่ายแอลกอฮอล์ เพื่อให้มีแอลแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ออกสู่ท้องตลาดได้มากยิ่งขึ้น