เริ่มแล้ว สปสช.เปิดรับสมัคร “หน่วยบริการนวัตกรรมในพื้นที่ กทม.” เดินหน้า ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคฯ
เริ่มแล้ว สปสช. จัดประชุมชี้แจงการร่วมเป็น “หน่วยบริการนวัตกรรมในระบบบัตรทอง” พร้อมเปิดรับสมัคร “สถานพยาบาล คลินิกต่างๆ และร้านยา” ใน กทม. ที่สนใจเข้าร่วม เตรียมเดินหน้า “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค บัตรประชาชนใบเดียวรักษาที่หน่วยนวัตกรรมทุกแห่งในพื้นที่ กทม.” ดูแลประชาชนใช้สิทธิบัตรทองในพื้นที่ เพิ่มความสะดวกเข้าถึงบริการ
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) และคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ เขต 13 กรุงเทพมหานคร (อปสข. เขต 13 กทม.) เห็นชอบให้มีการขับเคลื่อน “ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค บัตรประชาชนใบเดียวรักษาที่หน่วยนวัตกรรมทุกแห่งในพื้นที่ กทม.” เพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) และเข้ารับบริการตามสิทธิประโยชน์บัตรทองฯ ได้โดยสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบาย สปสช. ได้ขับเคลื่อนด้วยการขยายเพิ่มเติมการรับบริการหน่วยบริการนวัตกรรมในพื้นที่ กทม. โดยในวันนี้ สปสช. จึงได้ดำเนินการจัด “ประชุมชี้แจงการเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” โดยให้ข้อมูลหลักเกณฑ์การดำเนินการ วิธีการ เงื่อนไขการเบิกจ่าย การเตรียมการบันทึกข้อมูลเพื่อขอรับค่าชดเชย การยืนยันตัวตน และแนวทางการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการนวัตกรรม เป็นต้น ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ
ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ยังได้เปิดรับสมัครสถานพยาบาล คลินิกต่างๆ และร้านยา ที่สนใจเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมทั้ง 7 ประเภทกับ สปสช. ในคราวเดียวกัน ซึ่งสถานพยาบาลที่ สปสช. ชวนมาเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมนี้ประกอบด้วย คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คลินิกทันตกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกการแพทย์แผนไทย และคลินิกกายภาพบำบัด รวมถึง ร้านยา GPP+ร้านยาคุณภาพ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ สปสช. มาอำนวยความสะดวก
“ในวันนี้นอกจากฟังการชี้แจงข้อมูลการสมัครเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการจาก สปสช.แล้ว ยังมีผู้แทนสภาวิชาชีพสาขาต่างๆ มาร่วมให้ข้อมูล เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจกับหน่วยบริการที่สนใจมาร่วมดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองฯ ใน กทม. ซึ่งการจัดบริการสำหรับผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่หน่วยบริการนวัตกรรมนี้ เป็นความร่วมมือของ สปสช. กับสภาวิชาชีพต่างๆ ในการร่วมดูแลสุขภาพประชาชนภายใต้สิทธิบัตรทองมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการที่จำเป็นได้โดยสะดวก รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง และลดควาแออัดผู้ป่วยในโรงพยาบาล ขณะเดียวกันยังเป็นการแบ่งเบาภาระการดูแลผู้ป่วยของบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล”
ด้าน ทพญ.น้ำเพชร ตั้งยิ่งยง ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 13 กรุงเทพมหานคร (สปสช.เขต 13 กทม.) ว่า ในส่วนสถานพยาบาลและร้านยาที่สนใจเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรม แต่ยังไม่พร้อมที่จะมาสมัครขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ในวันนี้ สามารถสมัครผ่านระบบออนไลน์ได้เช่นกันตามลิงค์นี้ https://ossregister.nhso.go.th/#/public-portal สำหรับเอกสารที่ใช้สมัคร ได้แก่ ใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน (แบบ ข.ย.5) สำหรับร้านยา ส่วนสถานพยาบาลประเภทอื่นไม่ต้องใช้เนื่องจากเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพแล้ว, หนังสือมอบอำนาจและเอกสารผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมีมอบอำนาจ) บัญชีธนาคารพร้อมสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (Book Bank) โดยชื่อบัญชีต้องตรงกับชื่อหน่วยบริการ หรือนิติบุคคล หรือชื่อผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล สพ.7 ทั้งนี้ การสมัครเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมนั้น ไม่ต้องวางหลักประกันสัญญา และจะมีการประกาศขึ้นทะเบียน และลงนามนิติกรรมภายใน 5 วันทำการ
- สมัครขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ One Stop Service ผ่านระบบออนไลน์ : https://ossregister.nhso.go.th/#/public-portal