ซีพี-เมจิ เดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกป่าพุแค จ.สระบุรี ร่วมสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
นายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิด กิจกรรม ปลูกต้นไม้ ฟื้นฟูป่าอนุรักษ์ ตามโครงการ “ซีพี - เมจิ รักษ์ป่า รักษ์น้ำ ปีที่ 3” พร้อมด้วย นายหงษ์พิจารณ์ บัวไข หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์พุแค นายมนัสพันธ์ ดอนก้อนไพร นายอำเภอพระพุทธบาท และนางสาวสลิลรัตน์ พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม จำนวนมากกว่า 500 คน ร่วมฟื้นฟูและรักษาผืนป่า ควบคู่กับการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการปลูกต้นไม้ 22,000 ต้น รวม 110 ไร่ เพื่อเป็นแนวกันชนธรรมชาติ พร้อมทั้งเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ รักษาสมดุลของระบบนิเวศ เป็นแหล่งพืชอาหารของสัตว์ป่าและคนในชุมชนโดยรอบแนวเขตพื้นที่ นอกจากนี้การที่พื้นที่สีเขียวที่เพิ่มขึ้นยังช่วยบรรเทาและลดปัญหาฝุ่นละอองใน จ.สระบุรี ณ พื้นที่แปลงปลูกป่าสวนพฤกษศาสตร์พุแค
นายหงษ์พิจารณ์ บัวไข หัวหน้าพฤกษศาสตร์พุแค กล่าวว่า กิจกรรมการปลูกต้นไม้ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ถือเป็นการดำเนินการเชิงรุกในการปกป้องและเพิ่มผืนป่าอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะที่สวนพฤกษศาสตร์พุแค พื้นที่กว่า 5,000 ไร่ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้นน้ำของลำน้ำพุแค แหล่งรวบรวมพันธุ์พืชหายาก ใกล้สูญพันธุ์ พืชประจำถิ่นของภาคกลาง
“จากการเก็บข้อมูลพบว่า ปีที่ผ่านมา สวนพฤกษศาสตร์พุแค มีการวัดปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ได้มากถึง 141,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ปลดปล่อยออกซิเจนให้กับสิ่งมีชีวิตได้มากกว่า 71,000 ตัน โดยกิจกรรมครั้งนี้ จึงเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อคืนชีวิต คืนพื้นที่สีเขียวให้กับผืนป่า ตามเป้าหมายการทำงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในการดูแล และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่คู่กับประเทศไทยอย่างยั่งยืน” นายหงษ์พิจารณ์ กล่าว
ด้าน นางสาวสลิลรัตน์ พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการ ซีพี - เมจิ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจกว่า 3 ทศวรรษ ซีพี-เมจิ วางเป้าหมายในการเติบโตของบริษัทควบคู่กับการดูแลและรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “เพิ่มคุณค่าชีวิต” ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ ประโยชน์ต่อประเทศ ประโยชน์ต่อประชาชน และประโยชน์ต่อองค์กร เป็นลำดับสุดท้าย
"ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนกำลังเผชิญ ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณเตือนสำคัญ ที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องหันมาตระหนักถึงการคืนสมดุลให้แก่ธรรมชาติ รวมถึง อนุรักษ์ ฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยซีพี-เมจิ ตั้งเป้าหมายปลูกต้นไม้ 200,000 ต้น ภายในปี พ.ศ. 2573 ปัจจุบันโครงการดำเนินมาแล้วเป็นปีที่ 3 ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 52,000 ต้น" นางสาวสลิลรัตน์ กล่าว
บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ร่วมกับทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อาทิ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใต้แนวคิด ‘เพิ่มคุณค่าชีวิต’ หรือ ‘Enriching Life’ 3 ด้านได้แก่ ด้านสุขภาพ (Health) คือการพัฒนาสินค้าเพื่อดูแลสุขภาพของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย รวมถึงการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้านสังคม (People) ได้แก่ การดูแลเกษตรกร พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า พนักงานและชุมชน และด้านสิ่งแวดล้อม (Planet) ด้วยการจัดการด้านพลังงาน การอนุรักษ์น้ำ การจัดการของเสีย และการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์