ยูนิเซฟฉลอง 75 ปีในประเทศไทย ยืนหยัดในภารกิจที่มุ่งมั่นส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีเพื่อเด็กทุกคน
ยูนิเซฟฉลองครบรอบ 75 ปีของภารกิจเพื่อเด็กและการทำงานร่วมกับเด็กในประเทศไทย โดยตลอดระยะเวลา 75 ปี ยูนิเซฟได้ร่วมมือกับรัฐบาลไทยและภาคีเครือข่ายในการยกระดับคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสิทธิของเด็กในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ การศึกษา การคุ้มครองเด็ก และการมีส่วนร่วมในสังคม และเนื่องในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ยูนิเซฟขอเชิญชวนสังคมไทยให้หันมาให้ความสำคัญกับความต้องการของเด็กมากขึ้นพร้อมร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสให้กับเด็กทุกคน
ดาวน์โหลดภาพได้ ที่นี่
ในโอกาสนี้ ยูนิเซฟจะเปิดตัววิดีโอซีรีส์ 'ยูนิเซฟ 75 ปี แห่งคำมั่นสัญญาเพื่อเด็กทุกคน' บนโซเชียลมีเดียตลอดทั้งปี ซึ่งจะมีผู้คนจากทุกภาคส่วนทั้งผู้กำหนดนโยบาย อินฟลูเอนเซอร์ ภาคีเครือข่าย ประชาชน รวมทั้งเด็กและเยาวชน มาบอกเล่าคำมั่นสัญญาของตนในการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเปราะบางที่สุด โดยวิดีโอชุดแรกที่ปล่อยวันนี้นำโดยนางคยอนซอน คิม ผู้อำนวยการ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย, มิน พีชญา วัฒนามนตรี เฟรนด์ออฟยูนิเซฟ และ วรรธน์วรี ไชยมงคล หนึ่งในตัวแทนคณะกรรมการที่ปรึกษาเยาวชนยูนิเซฟ
ตลอด 75 ปีที่ผ่านมา ภารกิจของยูนิเซฟมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กในประเทศไทย ยกตัวอย่าง การสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรคทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในปี 2496, การริเริ่มโครงการนมโรงเรียนเพื่อช่วยลดการขาดโปรตีนในเด็กในยุค 2500, การส่งเสริมการศึกษาระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษาในปี 2507, การสนับสนุนให้เกิดกฎหมายที่กำหนดให้เติมไอโอดีนในเกลือบริโภคทุกชนิดในปี 2554 และการสนับสนุนให้เกิดโครงการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในปี 2558 ซึ่งถือเป็นการคุ้มครองทางสังคมที่สำคัญอย่างยิ่งของประเทศไทย
นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ชีวิตของเด็ก ๆ ในประเทศไทยพัฒนาไปมากตลอดระยะเวลา 75 ปี ซึ่งยูนิเซฟภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความก้าวหน้าในแทบทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเด็ก ยกตัวอย่าง การรอดชีวิตของเด็กแรกเกิด การขจัดความยากจนสุดขีด หรือการที่เด็กเกือบทุกคนในปัจจุบันได้รับการจดทะเบียนเกิด ได้เข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคและบริการสุขภาพ และได้เข้าเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา”
ในช่วง 75 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก ยูนิเซฟจึงได้ปรับเปลี่ยนบทบาทและภารกิจให้สอดคล้องกับบริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ระหว่างยูนิเซฟและรัฐบาลไทยได้ก้าวข้ามจากการเป็นผู้ให้และผู้รับเป็นพันธมิตรที่ร่วมสร้างกลยุทธ์และทำงานร่วมกัน เพื่อสนับสนุนให้ประเทศได้พัฒนาศักยภาพและความเชี่ยวชาญในการเติมเต็มวิสัยทัศน์สำหรับเด็กในระยะยาว ในขณะเดียวกันยูนิเซฟก็ได้สร้างโอกาสให้สังคมไทยมีส่วนร่วมในการสนับสนุนเด็กกลุ่มเปราะบางในประเทศและทั่วโลกผ่านการบริจาคและการเป็นอาสาสมัครเพื่อตอบแทนชุมชนของตนเอง
ปัจจุบัน ยูนิเซฟยังคงทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย ภาคประชาชน ภาคเอกชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ ตลอดจนเด็กและเยาวชนเอง เพื่อร่วมกันสร้างแนวทางที่ประกันสิทธิของเด็กทุกคนในประเทศไทยอย่างเท่าเทียม
นางคยองซอน คิม กล่าวเสริมว่า “ในขณะที่เราฉลองความสำเร็จในวันเด็กในปีนี้ เราก็สะท้อนถึงชีวิตของเด็กไทยในปัจจุบันและอนาคตด้วยเช่นกัน แม้ว่าประเด็นด้านเด็กจะมีความก้าวหน้าและสำเร็จไปหลายเรื่อง แต่ก็ยังมีความท้าทายอีกมากมายหลายด้านที่รอเราอยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 วิกฤตสภาพอากาศ และความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ความพยายาม ความมุ่งมั่น และการลงทุนอย่างจริงจังจากทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อรับมือกับมัน เราต้องรวมพลังในหมู่ภาคีเครือข่ายและทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างอนาคตใหม่ให้กับเด็กทุกคน ยูนิเซฟจะไม่หยุดนิ่งจนกว่าเด็กทุกคนในประเทศไทยและทั่วโลกจะได้รับโอกาสที่พวกเขาสมควรจะได้รับเพื่อเติมเต็มศักยภาพของตนเองอย่างเต็มกำลัง”