มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ลงนามในบันทึกความเข้าใจและส่งมอบสถานีโทรมาตรอัตโนมัติให้แก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองประธานกรรมการที่ปรึกษาและประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และนางบุนคำ วอละจิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อการเฝ้าระวัง การเตือนภัย และการบรรเทาทุกข์จากปัญหาอุทกภัย ระหว่างมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว โดยมีกรรมการมูลนิธิ และผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ในโอกาสนี้ ศาสตราจาร์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้ส่งมอบสถานีโทรมาตรอัตโนมัติเพื่อตรวจวัดปริมาณน้ำฝน สภาพภูมิอากาศ และระดับน้ำ ระยะที่ 1 จำนวน 11 สถานีที่ติดตั้งเสร็จสิ้นแล้วครอบคลุมตั้งแต่ตอนเหนือสุด คือ แขวงบ่อแก้ว ไปจนถึงตอนใต้สุด คือ แขวงสาละวัน ให้แก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว รวมทั้งได้มอบเกียรติบัตรให้แก่เจ้าหน้าที่กรมอุตุนิยมและอุทกศาสตร์ สปป.ลาว ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการเพิ่มศักยภาพ (Capacity Building) การใช้ระบบการเฝ้าระวัง การเตือนภัย จำนวน 3 คน โดยจัดพิธีขึ้น ณ หอประชุมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565
จากนั้น หัวหน้าคณะทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันทำพิธีเปิดสถานีโทรมาตรอัตโนมัติอย่างเป็นทางการ ณ กรมอุตุนิยมและอุทกศาสตร์ และได้เข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานและรับฟังบรรยายสรุปการใช้ประโยชน์จากข้อมูลปริมาณน้ำและสภาพภูมิอากาศที่ได้รับจากสถานีโทรมาตรอัตโนมัติเพื่อการบริหารติดตามสถานการณ์น้ำและการเตือนภัยจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของศูนย์ควบคุมน้ำ สปป.ลาว ที่ผ่านการอบรมจากสถาบันสารสนเทศน้ำ (สสน.) ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิฯ
ในช่วงบ่าย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนางปานี ยาท่อตู้ รองประธานประเทศ สปป.ลาว ณ สภาแห่งชาติลาว โดยได้หารือถึงการพัฒนาความร่วมมือในการติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยทุกแขวงใน สปป.ลาว การจัดตั้งเครือข่ายเตือนภัยระดับชุมชนใน สปป.ลาว และการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ของ สปป.ลาว เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากสถานีโทรมาตรอัตโนมัติเพื่อการบริหารจัดการน้ำและการเตือนภัยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยฝ่าย สปป.ลาวได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อความร่วมมือดังกล่าว