“อนุทิน” ห่วงใยประชาชนสิทธิบัตรทองเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้ารักษาได้ทุก รพ.ที่อยู่ใกล้ตามนโยบาย UCEP ส่วนกรณีเจ็บป่วยไม่ถึงขั้นวิกฤติ แต่จำเป็นต้องรับการรักษา รวมถึงเจ็บป่วยทั่วไปใช้บริการ “ปฐมภูมิ 30 บาทรักษาทุกที่” ส่วนกรณีติดเชื้อโควิด-19 เข้าข่ายกลุ่มเหลือง/แดง ใช้สิทธิ “UCEP Plus” และกลุ่มสีเขียวรับบริการ “เจอ แจก จบ” หน่วยบริการที่อยู่ใกล้ได้ พร้อมแนะประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เน้นย้ำเดินทางอย่าลืม “บัตรประชาชน”
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 นี้ ซึ่งเป็นช่วงมีวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 13-17 เมษาpน 2565 เมื่อรวมวันหยุดราชการเสาร์และอาทิตย์รวมเป็น 5 วัน แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งจำเป็นต้องเดินทางกลับบ้านหรือเยี่ยมเยียนครอบครัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้ สปสช.ดูแลพร้อมแจ้งผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรรทอง” หากเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ในการเข้ารับบริการแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
1.กรณีเจ็บป่วยระดับฉุกเฉินวิกฤติ หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุดโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP) ของรัฐบาล โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายค่ารักษาจาก สปสช. ตามอัตราที่กำหนด
2.กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ระดับฉุกเฉินวิกฤติ หรือกรณีผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะ ปวดท้อง เป็นต้น สามารถเข้ารับบริการ “ประชาชนที่เจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัว ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้” หรือ “30 บาทรักษาทุกที่” ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายยกระดับบัตรทอง ที่ได้ขยายบริการทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 โดยสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิในระบบบัตรทองที่อยู่ใกล้ที่สุด เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว และไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวเหมือนในอดีต
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ในกรณีที่ติดเชื้อโควิด-19 และอยู่นอกพื้นที่หน่วยบริการประจำนั้น หากมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงโดยอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีเขียว สามารถใช้สิทธิ UCEP Plus เพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ได้ และในกรณีที่มีอาการไม่มาก เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มสีเขียวก็สามารถเข้ารับบริการ “ผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน” หรือ “เจอ แจก จบ” ในหน่วยบริการที่อยู่ใกล้ได้ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนอกจากบริการที่โรงพยาบาลแล้ว ยังสามารถเข้ารับบริการนี้ได้ที่ร้านยาที่เข้าร่วมได้เช่นกัน
“การเข้ารับบริการรักษาพยาบาลในช่วงของการเดินทางอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการใช้สิทธิบัตรทอง นอกจากเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นหลักฐานสำคัญแล้ว ควรศึกษาข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างเดินทางและจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการเข้ารับบริการหากมีเหตุจำเป็น เพื่อความไม่ประมาท ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหอบหืด เป็นต้น ควรเตรียมพร้อมยารักษาโรคเพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทางด้วย” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวย้ำว่า ด้วยโรคโควิด-19 ขณะนี้ ที่มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก รวมถึงผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจากการคาดการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงหลังสงกรานต์นี้ ดังนั้นของประชาชนลดการเดินทางไปต่างจังหวัด ขอให้เป็นผู้ที่มีความจำเป็นเท่านั้น พร้อมกันนี้ให้ระมัดระวังดูแลและป้องกันตนเองและคนที่เรารัก ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่อย่างน้อย 30 วินาที หรือใช้แอลกอฮอล์ การลดความเสี่ยงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และการเว้นระยะห่าง เป็นต้น ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงได้อยู่ที่ความร่วมมือของคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand