กรมราชทัณฑ์เผยผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดเพิ่ม 280 ราย เสียชีวิตอีก 4 ราย ขณะที่หายป่วยแล้ว 17,833 ราย หรือกว่า 60% จากยอดสะสม พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีน-สร้างภูมิคุ้มกันเพิ่ม โดยฉีดไปแล้ว 11 เรือนจำ 20,336 ราย
...............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 280 ราย รักษาหายเพิ่ม 1,572 ราย เสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณท์ 12,031 ราย
ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาตในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำหรือทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 127 แห่ง พบการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งคงเดิม โดยเริ่มพบแนวโน้มของผู้ต้องขังที่หายป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้มียอดผู้ที่หายป่วย 17,833 ราย หรือกว่า 60 เปอร์เซ็นต์จากยอดผู้ป่วยสะสม 30,037 ราย กรมราชทัณฑ์มีโรงพยาบาลจำนวน 2 แห่ง คือ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ทำหน้าที่ในการดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีแดงและสีเหลืองจากเรือนจำและทัณฑสถาน ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ภายใต้การดูแสรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยถ้าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนักจะดำเนินการส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลภายนอก เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ทั้งนี้ นอกจากการรักษาตามกระบวนการแล้ว ยังคุมเข้มในส่วนของมาตรการคัดกรองผู้ติดเชื้อด้วยการ SWAB ก่อนเข้าเรือนจำ โดยเฉพาะผู้ต้องขังเข้าใหม่ในเรือนจำหรือทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาด ต้อง
แยกผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอกไม่นำเข้าเรือนจำหรือทัณฑสถาน และถ้าไม่พบเชื้อจะนำตัวเข้าสู่ห้องกักโรค เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 21 วัน โดยต้องทำการ SWAB เพื่อยืนยันผลว่าไม่พบเชื้ออีกครั้ง จึงจะปล่อยตัวเข้าสู่เรือนจำชั้นใน และในส่วนของเรือนจำหรือทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาดแล้ว จะต้องดำเนินการแยกส่วนคุมขังผู้ต้องขังเข้าใหม่ออกจากเรือนจำ/ทัณฑสถานเดิมอย่างชัดเจน โดยอาจพิจารณาพื้นที่เรือนจำเก่า เรือนจำชั่วคราว หรือเรือนจำและทัณฑสถานใกล้เคียงเพื่อรับตัว
ด้านการดำเนินการฉีดวัซีน นายอายุตม์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการฉีดวัคชีนแก่ ผู้ต้องขังไปแล้ว 20,336 ราย ในเรือนจำหรือทัณฑสถาน จำนวน 11 แห่ง คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำพิเศษพัทยา ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณข์ ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำอำเภอไซยา เรือนจำอำเภอธัญบุรี เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีเรือนจำหรือทัณฑสถานที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ 12 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เรือนจำกลางชลบุรี เรือนจำกลางราชบุรี เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางเขาบิน และเรือนจำจังหวัดระนอง การดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยผู้ต้องขังที่มีอาการไม่พึงประสงค์จากการรับวัคซีน ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ ได้รับการรักษาจนอาการเป็นปกติแล้ว
กรณีผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 4 รายในวันนี้ นายอายุตม์ กล่าวว่า ผู้ต้องขัง 2 รายแรก เป็นผู้ป่วยจากทัณฑสถานหญิงกลาง และทัณฑสถานหญิงธนบุรี เข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่วนอีก
2 ราย เป็นผู้ต้องขังที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง คือ มีโรคประจำตัว และบางรายเป็นผู้สูงอายุ แพทย์ได้ให้การรักษาด้วยการให้ยา และการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่อาการยังคงทรุดลง จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด โดยเป็นการเสียชีวิตที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 ราย โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง 1 ราย โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 1 ราย และโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 1 ราย กรมราชทัณฑ์ได้ประสานไปยังญาติ และดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage