ตัวแทนกลุ่มประชาชนคนไทย แถลงเรียกร้อง 'พล.อ.ประยุทธ์' ลาออก เปิดทางเลือกนายกฯคนนอก ตั้งรัฐบาลสร้างชาติตามรัฐธรรมนูญ หลัง 7 ปีที่ผ่านมา ไม่ตอบสนองการปฏิรูปประเทศทุกด้าน ละเลยการบังคับใช้กฎหมาย แก้คอร์รัปชั่นล้มเหลว ปล่อยให้มีการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ และแก้ปัญหาโควิดไม่ได้
.............................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2564 ที่อาคารพญาไทพลาซ่า โถงอาคารชั้น 1 นายนิติธร ล้ำเหลือ ในฐานะที่ปรึกษากลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) ร่วมกับ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นักธุรกิจเพื่อสังคม และนายพิชิต ไชยมงคล ผู้ประสานงานกลุ่ม ปท. ร่วมกันแถลงข่าวเรื่องขอให้รัฐบาลเสียสละลาออก โดยนายพิชิต กล่าวว่า เรายืนยันเดินหน้าการปฏิรูปประเทศไทยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผูกพันให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำเนินการ ตลอดเวลานั้นชัดเจนไม่คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในการปฏิรูปสักข้อ โดยเฉพาะตำรวจและการเมือง ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเสียสละตัวเอง เพื่อให้เกิดรัฐบาลสร้างชาติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 (2) ภายใต้กลไกรัฐสภา
นายพิชิต กล่าวอีกว่า รัฐบาลสร้างชาติ จะมีภารกิจ 1.แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดให้เป็นรูปธรรม สร้างการมีส่วนร่วมให้มากกว่านี้ หยุดการคอร์รัปชั่น และกระจายวัคซีนทั่วถึง 2.รัฐบาลสร้างชาติ ต้องปฏิรูปประเทศไทย มีกรอบเวลาที่ชัดเจน และ 3.ต้องสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นให้ได้ ซึ่งจะเกิดรัฐบาลสร้างชาติขึ้นมาได้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเสียสละลาออก
ทั้งนี้ ในวันอังคารที่18 พ.ค.2564 ตัวแทนกลุ่มจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบเจตนารมณ์
ช่วงหนึ่ง นายพิชิตอ่านแถลงการณ์ มีเนื้อหาสรุปได้ว่า 7 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิสูจน์ชัดเจนยึดอำนาจเพื่อตัวเองและพวกพ้อง ไม่ตอบสนองการปฏิรูปทุกด้าน ออกแบบรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเขียนให้ตัวเองได้เปรียบ ผิดสัญญาประชาคมที่ให้ต่อรัฐสภา ประชาชนต้องทนเห็นการใช้อำนาจฉ้อฉล ตระบัดสัตย์คำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ที่สำคัญเกิดการก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แทนที่รัฐบาลจะปกป้องอย่างแข็งขัน กลับกลายเป็นนำสถาบันมาอ้างเป็นเกราะกำบังพฤติกรรมชั่วร้ายทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ แสดงออกราวกับว่าปัญหาเป็นความแตกแยกของประชาชน ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ทั้งที่ต้นตอของปัญหาเกิดจากรัฐบาล ขอเรียกร้องให้ลาออก เปิดโอกาสให้สภาเลือกนายกฯ ตามมาตรา 272 (2) เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด เดินหน้าปฏิรูปประเทศ และสร้างความปรองดองสมานฉันท์
ด้าน นายปรีดา กล่าวด้วยว่า เราต้องการรัฐธรรมนูญปฏิรูปฉบับสุดท้ายของประเทศ เราทำเรื่องการปฏิรูปมา 15 ปี โดยสมัชชาปฏิรูปที่นำโดยนายประเวศ วะสี และกรรมการปฏิรูปที่นำโดยนายอานันท์ ปันยารชุน มีข้อเสนอเหมือนกันคือประเทศไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ถ้าไม่แก้ไขจะเกิดวิกฤติแตกแยก เราบอกทางออกชัดเจนต้องกระจายอำนาจ แต่ไม่เคยถูกนำมาปฏิบัติ รัฐบาลเสนอวิสัยทัศน์ 20 ปีของแต่ละกระทรวงไม่ใช่การปฏิรูป การปฏิรูปต้องมาคุยกัน 7 ปี การปฏิรูปไม่ก้าวหน้า เรามีคนดีอย่างผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ถ้ามาอยู่ในคณะปฏิรูปเราต้องการ ไม่ใช่คนมีคดีแป้งเป็นรัฐมนตรี นายณรงค์ศักดิ์มีผลงานชัดเจน กล้าหาญ แต่ถูกเตะไปจังหวัดนู้นจังหวัดนี้
นายปรีดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ปัญหาประเทศต้องได้กลุ่มคนดีรักชาติ มองเพื่อประชาชน สังคม ประเทศชาติ ขณะที่เศรษฐกิจถูกควบคุมไม่กี่สกุล การกระจายรายได้แย่สุดในโลก ทั้งที่เราน่าจะมีความสมบูรณ์ร่วมกัน การปกครองเอื้อผู้มีอำนาจเสวยกันในกลุ่มเล็กๆ ไม่ดีขึ้น สวนทางกันหมด ข้อเสนอไม่ถูกสนองเลย เราต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยคนมีจิตวิญญาณแก้ปัญหาประเทศอย่างแท้จริง ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ถ้าไม่เขียนรัฐธรรมนูญใหม่เอื้อให้ประเทศปฏิรูปตัวเอง สร้างผลิตผลช่วยดูแลผู้มีอายุ ประเทศจะล้มเหลว
ส่วน นายนิติธร กล่าวว่า ตนเองประเมินการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 7 ปี ใช้รัฐธรรมนูญประเมิน ตามคำปรารภชี้เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแก้ปัญหาที่ปรากฏ คือ 1.ผู้ไม่นำพานับถือกฎเกณฑ์ปกครองบ้านเมือง 2.ทุจริตฉ้อฉลบิดเบือนอำนาจ 3.ขาดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ประชาชน ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล รัฐบาลนี้มีตัวอย่างกรณีนาฬิกายืมเพื่อน มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์มากที่สุด ประชาชนขัดแย้งแตกแยกต้องออกมาปกป้องสถาบันฯ ด้วยตัวเอง รัฐบาลเพิกเฉยไม่สามารถจัดการอะไรได้
นายนิติธร กล่าวต่อไปว่า กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปัญหาอยู่ที่จริยธรรม นายกรัฐมนตรีต้องสร้างระบบคุณธรรม เป็นตัวอย่างจริยธรรมที่ดี เรื่องจริงคือมีคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย และศาลรัฐธรรมนูญเป็นระบบไต่สวนต้องค้นหาเอกสาร ไม่ใช่หน้าที่ผู้ร้องซึ่งมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล และปัญหาโควิด รัฐบาลไม่นำพาต่อการบริหารจัดการป้องกันเชื้อ มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดการกระจายของเชื้อ บริหารผิดมาโดยตลอด เห็นเป็นประจักษ์ชัด รัฐธรรมนูญให้ปฏิรูปการศึกษา การบังคับใช้กฎหมาย เสริมสร้างระบบคุณธรรม ไม่เกิดขึ้นเลย รัฐบาลไม่สามารถนำพาประเทศพ้นวิกฤติได้ จึงเรียกร้องประชาชนทุกคนทุกฝ่ายมองความจริง สร้างรัฐบาลสร้างชาติตามมาตรา 272 (2)
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม จะร่วมกับกลุ่มไทยไม่ทนหรือไม่ และยกระดับการเคลื่อนไหวอย่างไร นายพิชิต ไชยมงคล กล่าวตอบว่า คงไม่สามารถตอบได้ ต่างคนต่างดำเนินการ ไม่มีการพูดคุยกัน ข้อเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ลาออกตรงกัน แต่เราเสนอรัฐบาลสร้างชาติ มีภารกิจชัดเจน แตกต่างกัน การเคลื่อนไหวยังประเมินสถานการณ์กันอยู่ ในวันที่ 22 พ.ค.2564 อาจจัดเสวนาทางวิชาการ 7 ปี ความล้มเหลวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งนายสุริยะใส กตะศิลา รับเป็นเจ้าภาพ
เมื่อถามถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ยังยืนยันสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ นายนิติธร ล้ำเหลือ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายสุเทพ ไม่ได้คุยกัน ตนเองไม่ค่อยคุยกับใคร ไม่สร้างเครือข่าย ทำหน้าที่เมื่อประเทศวิกฤติ รัฐบาลไม่นำพา นายสุเทพจะเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เชียร์ไป แต่ถ้าประเทศเสียหาย นายสุเทพจะรับผิดชอบร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือเปล่า รัฐบาลอยู่บนความแตกแยก อยู่บนวิกฤติโควิด และอยู่ด้วยการปล่อยให้ละเมิดสถาบันฯ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไป สถาบันฯ จะสง่างามมากขึ้น
ถามถึงการเสนอนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 (2) คือนายกรัฐมนตรีคนนอก คิดว่าใครเหมาะสม นายนิติธร กล่าวว่า คนที่มีคุณสมบัติครบตามรัฐธรรมนูญ สอดคล้องมาตรฐานจริยธรรม เห็นแก่ประเทศชาติประชาชนมากกว่าพวกพ้อง มีวิสัยทัศน์มองความเป็นจริงให้ชัดเจน ใครก็ได้ ไม่เอ่ยชื่อชี้นำใคร ถ้าเกิดขึ้นจริงจะให้ประชาชนโหวต อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ให้ประชาชนเข้าถึงนายกรัฐมนตรีได้อย่างแท้จริง
นายนิติธร กล่าวด้วยว่า องค์กรอิสระต่างๆ โดยเฉพาะด้านการตรวจสอบที่ได้รับแต่งตั้งในรัฐบาล คสช. สิทธิพิเศษที่ได้รับจากอำนาจรัฐประหาร ต้องวางลงและควรลาออก มิเช่นนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ และบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ได้รับผลพวงจากรัฐประหารควรลาออก ปล่อยให้คนดีมีฝีมือเข้าไปตรวจสอบจึงจะเป็นไปได้จริง
อ้างอิงข่าว: ไทยโพสต์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/