'สุรเกียรติ์ เสถียรไทย' ออกแถลงการณ์ ยินดี 'อาเซียน' ให้ความสำคัญปัญหาเมียนมา หนุนมติ 5 ข้อ จี้เผด็จการทหารปล่อย 'อองซาน ซูจี' ด้าน ผู้นำกลุ่มเคเอ็นยูเห็นด้วยมติอาเซียน
วันที่ 25 เม.ย.2564 ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองแห่งเอเชีย ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการประชุมผู้นำอาเซียน เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 ว่า คณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองแห่งเอเชีย (APRC) มีความยินดีกับผลการประชุมผู้นำอาเซียนที่เพิ่งจัดประชุมที่สำนักเลขาธิการอาเซียนกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 24 เมษายน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในเมียนมา ที่ได้ย้ำความห่วงกังวลยิ่งของอาเซียนและประชาคมระหว่างประเทศ เกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการล้มตายของผู้คนในเมียนมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะมนตรี APRC มีความยินดีกับการประกาศฉันทามติห้าข้อ (Five-Point Consensus) ซึ่งเป็นท่าทีเชิงบวกและรุดหน้าในการมีปฏิสัมพันธ์ของอาเซียน ต่อสถานการณ์ในเมียนมา เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาอย่างสันติระหว่างทุกฝ่าย และเพื่อให้สันติภาพและความมั่นคงกลับคืนสู่เมียนมา
เพื่อการนี้เราขอเรียกร้องทางการทหารของเมียนมาให้แสดงเจตนารมณ์อย่างจริงจังที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดและแข็งขันกับอาเซียน เพื่อปฏิบัติตามฉันทามติห้าข้อที่ได้ตกลงกันไว้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและครบถ้วน โดยทางการทหารและฝ่ายความมั่นคงเมียนมาควรเริ่มดำเนินขั้นตอนต่างๆ โดยทันที เพื่อยุติความรุนแรง
คณะมนตรี APRC เชื่อว่า เนื่องจากจังหวะเวลามีความสำคัญยิ่ง จึงจำเป็นที่จะต้องมีการระบุรายละเอียดและช่วงเวลาของมาตรการต่างๆ เพื่อดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อ โดยเร็ว โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่ต้องการอย่างเร่งด่วนโดยศูนย์ AHA รวมทั้งบทบาทและกำหนดการเยือนเมียนมา ของคณะผู้แทนทางการทูตพิเศษของประธานอาเซียน ในขณะเดียวกันคณะมนตรี APRC มีความเห็นว่า อาเซียนควรเรียกร้องอย่างจริงจังและชัดเจนเพื่อให้มีการปล่อยตัว นางอองซาน ซูจี และผู้ถูกควบคุมตัวทางการเมืองทั้งหมด อันเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและครบถ้วนตามฉันทามติ 5 ข้อ ที่ได้ตกลงกันไว้
ขณะที่ทางด้านนายพาโด้ กอว์ทูวิน (Padoh Kwe Htoo) รองประธานาธิบดีสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) กล่าวถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ ณ สำนักงานเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อหารือสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศเมียนมาที่ผ่านมาว่า อย่างน้อยก็ถือว่ามีผู้นำและประเทศต่างๆ ได้คุยกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้นำการรัฐประหารที่เดินทางไปร่วมประชุมด้วยตนเอง ไม่ให้เข่นฆ่าหรือทำร้ายประชาชน โดยมีบางประเทศระบุว่า เหตุการณ์ในเมียนมาส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ เพราะมีผู้ลี้ภัยหนีเข้าไปอาศัยอยู่
นายพาโด้กล่าวว่า ทราบว่า การประชุมครั้งนี้ อาเซียนไม่ให้พลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย ลงชื่อร่วมประชุม การต้องรับจะแตกต่างไปจากประเทศสมาชิกอื่นๆ เพราะถูกมองว่าไม่ใช่ตัวแทนของประเทศเมียนมา แต่เป็นคู่ขัดแย้งคนหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ เห็นด้วยกับที่กลุ่มสมาชิกประเทศอาเซียนจะไปประเทศเมียนมา โดยแจ้งกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย ไว้แล้ว
อนึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนัดพิเศษที่สำนักเลขาธิการอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา ได้บรรลุฉันทามติ 5 ข้อดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ขอให้ยุติความรุนแรงในเมียนมาทันที และขอให้ทุกฝ่ายมีความอดทนอดกลั้น
2.ขอให้ดำเนินการจัดให้มีกระบวนการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแสวงหาแนวทางแก้ปัญหาโดยสันติวิธีเพื่อประโยชน์ของประชาชนเมียนมา
3.แต่งตั้งทูตพิเศษของประธานอาเซียนทำหน้าที่อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยเพื่อหาทางออกวิกฤตการเมืองเมียนมา โดยมีเลขาธิการอาเซียนทำหน้าที่สนับสนุน
4.อาเซียนจะดำนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมผ่าน AHA Centre
5.ทูตพิเศษและคณะทำงานจะเดินทางเข้าไปเมียนมาเพื่อพบกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage