บช.น.แถลงจับผู้ต้องหาคดี 112 พบเคยก่อเหตุพ่นสีรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ -เผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อ 18 พ.ย.-แจงคดีแอมมี่ ขอหมายจับเพื่อนหญิงคนสนิทอีก 1 รายร่วมก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มี.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวว่า ชุดสืบสวนบช.น. และตำรวจสันติบาล จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม.112 ดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อหานำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์มันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ผู้ต้องหาก่อเหตุที่หน้าสภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ และเป็นผู้ชุมนุมร่วมกับกลุ่มราษฎร เคยก่อเหตุพ่นสีรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 18 พ.ย.63 และเป็นผู้เผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ และของสิ่งของที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 6 ม.ค. หลังก่อเหตุทุกครั้งได้นำภาพและคลิปวีดีโอลงเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค โดยใช้ชื่อว่า มาริโอ้ ชินร์เซ (Mario Chinrxe) และยังเคยกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันที่จ.ยะลา สอบสวนนายพรชัย ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ให้การใดๆ จึงนำตัวส่งสภ.แม่โจ้ ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในกทม.ทั้งสองคดี อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับก่อนอายัดตัวมาดำเนินคดีต่อไป
มีรายงานว่า ผู้ต้องหาดังกล่าว คือ นายพรชัย วิมลศุภวงศ์ อายุ 38 ปี ชาวจ.แม่ฮ่องสอน ชุดสืบสวน กก.3 บก.ส.1 บช.ส. จับกุมได้ที่หน้าอาคารชุด ยูดีไลท์ รัตนาธิเบศร์ ซอยรัตนาธิเบศร์ 1 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี ตอนเย็นวันที่ 10 มี.ค. ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่537/2563 ข้อหาดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ กระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ นักร้องชื่อดัง ถูกจับกุมคดี 112 หลังก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์สินราชการที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรมว่า คดีมีความคืบหน้าพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่น รวบรวมพยานหลักฐานไปขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ ผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คนเป็นหญิงสาวคนสนิทของนายแอมมี่ ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายสถาบัน นอกจากนี้ยังออกหมายเรียกผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาหญิงรายนี้มีพฤติการณ์หลบหนีเตรียมการเดินทางออกนอกประเทศ ขณะนี้ชุดสืบสวนบช.น.อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
“ส่วนคดีของนายพิเชษฐ์ ขุนกำแหง ถูกตำรวจสน.ปทุมวัน จับกุมได้ พร้อมของกลางเป็นวัตถุระเบิดแรงดันต่ำเกือบ 20 ลูก ดินปืน สะเก็ดระเบิด และปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ ขณะขับรถส่ายไปมากลางแยกปทุมวัน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีอาการความผิดปกติทางจิตจริง แพทย์ส่งผลการตรวจสอบมาแล้ว อีกทั้งข้อมูลที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างมายังให้การวกวน ตรวจสอบข้อมูลไม่เป็นความจริงอีกทั้งยังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศตามที่กล่าวอ้าง นายพิเชษฐ์เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความรุนแรงในการชุมนุมหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบของกลางเบื้องต้นพบว่า มีความคล้ายคลึงกันทั้งดินปืนแรงดันต่ำและสะเก็ดระเบิด กับเหตุการณ์ความรุนแรงหลายครั้งในพื้นที่กทม. เช่น เหตุปาระเบิดใส่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน ที่สามย่านมิตรทาวน์จับกุมผู้ต้องหาได้ โดยยังไม่มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้จะไล่ตรวจสอบข้อมูลและรอผลการตรวจสอบคดีอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นในกรุงเทพฯและปริมณฑล” ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมนัดเดินทะลุฟ้าครั้งที่ 2 เดินทางไปทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 13 มี.ค.ว่า ทำเนียบรัฐเป็นสถานที่ห้ามชุมนุมอยู่แล้ว การรักษาความสงบเรียบร้อยดูการข่าวเป็นหลัก ต้องให้เขาทำตามกรอบของกฎหมาย ถ้าไม่เคลื่อนได้ก็ไม่เคลื่อน เขายืนยันว่าจะเคลื่อนขบวนสร้างความเดือนร้อนให้ประชาชนเราพยายามจะจัดเส้นทางเลี่ยง และจำกัดพื้นที่ชุมชุมให้เดือนร้อนน้อยที่สุด ขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุมถ้าไม่ใช้ความรุนแรงเราก็ไม่รุนแรง ถ้ามีการข่าวว่ากลุ่มบุคคลจะสร้างความรุนแรงตำรวจนครบาลก็ต้องดำเนินการขณะนี้ยังไม่มีการข่าวความรุนแรงดังกล่าว