โรงงานย่านภาษีเจริญ ตรวจพบโควิด 27 ราย มีคนเสี่ยงสูง 130 ราย กทม.เร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกอีก 1,300 ราย พร้อมสั่งปิดสถานรับเลี้ยง-ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3 เขต ขณะที่โรงเรียนหอวัง ประกาศปิดเรียน 3-5 ก.พ. หวั่นเด็กเดินทางไม่ปลอดภัยจากโควิด
..................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. แถลงผลการประชุมการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กทม. ว่า สืบเนื่องจากสำนักอนามัยได้ค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในพื้นที่เสี่ยงของโรงงานแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตภาษีเจริญ มีพนักงานทั้งหมด 887 คน เป็นคนไทย 300 คน และเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า 587 คน เบื้องต้นพบผู้ติดเชื้อรวม 27 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 130 ราย นอกจากนี้โรงงานดังกล่าวยังมีโรงงานในเครืออีก 1 แห่ง ซึ่งมีพนักงานทั้งสิ้น 1,300 คน สำนักอนามัยได้จัดเก็บตัวอย่างน้ำลายพนักงานโรงงานในเครือเพื่อตรวจหาเชื้อโควิดแล้ว จำนวน 800 คน อยู่ระหว่างรอผลส่งตรวจหาเชื้อโควิด และจะเร่งเก็บตัวอย่างน้ำลายพนักงานอีก 500 คน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ก.พ. 2564
เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงโรงงานเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐาราม สังกัด กทม. จึงได้สั่งปิดโรงเรียนดังกล่าวชั่วคราว ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 5 ก.พ. 2564 ส่วนโรงเรียนจันทร์ประดิษฐารามวิทยาคม สังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ได้ประสานไปยังผู้บริหารโรงเรียนเพื่อขอให้พิจารณาปิดการใช้สถานที่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ได้มีคำสั่งปิดศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของ กทม. ในพื้นที่เขตบางบอน เขตหนองแขม และเขตภาษีเจริญ ตั้งแต่บัดนี้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ
ขณะที่ นายประวัติ สุทธิประภา ผู้อำนวยการโรงเรียนหอวัง ลงนามในประกาศปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ ระบุว่า เนื่องด้วยยังพบผู้ติดเชื้อใน กทม.อย่างต่อเนื่อง โรงเรียนจึงได้พิจารณาเห้นว่าการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบผสมผสานเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลไม่เต็มที่ ประกอบกับการเดินทางของนักเรียนเกิดความไม่ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงให้ปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษตั้งแต่วันที่ 3-5 ก.พ.2564 และให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.เป็นต้นไป