ศบค.เผยตัวเลขวันแรกของการผ่อนปรน มีคนฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปชุมนุมมั่วสุม 129 คน สาเหตุหลักดื่มสุรา-เล่นพนัน-ยาเสพติด ขณะที่ 4 จังหวัดประกาศชัดงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า หลังจากราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 6) ที่มีเนื้อหาตอนหนึ่ง ระบุถึงมาตรการผ่อนปรนให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ห้ามการบริโภคภายในร้าน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ค. เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า มี 4 จังหวัด ประกาศงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย ปทุมธานี พิษณุโลก เพชรบุรี และบุรีรัมย์ และเป็นข้อมูล ณ วันที่ 4 พ.ค. เวลา 12.00 น.
ขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วงศ์วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบว่า ยังมีผู้กระทำความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วยการออกนอกเคหสถาน 690 คน และพบการชุมนุมมั่วสุม 129 คน โดยร้อยละ 60 คือ การดื่มสุรา อาจเป็นเพราะว่ามีการเปิดร้านขายสุราหรือไม่ ยังไม่แน่ใจ รองลงมาคือลักลอบเล่นการพนัน ร้อยละ 21 และ เสพยาเสพติด ร้อยละ 11 ตามลำดับ
เมื่อถามถึงกรณีที่ปรากฏภาพว่าประชาชนจำนวนมากออกไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเกิดการแออัดรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก จะส่งผลต่อการทบทวนมาตรการผ่อนคลายหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ บอกว่า ต้องขอแสดงความห่วงใยประชาชนที่อยู่ในชุดภาพต่างๆเหล่านั้น ถือเป็นข้อเตือนใจในช่วงเปลี่ยนผ่านตรงนี้ เราต้องพยายามทำความเข้าใจ แล้วจะได้เข้าใจว่าการปรับพฤติกรรมต่างๆ ถ้าทำได้ ทุกคนจะปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อปฏิบัติที่เราได้ทำกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
“ผมขอนำเรียนว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ได้เกินเลยหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย เป็นสิ่งที่ท่านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เป็นผลที่ทำให้เรามีตัวเลขเป็นหลักเดียว ถ้าท่านยึดหลักเหมือนเดิม ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และอย่าให้มีการแออัด เรายังต้องการความร่วมมือของท่านเหมือนเดิม เพื่อที่จะได้ใช้เวลาตอนนี้ให้โรคออกไปจากพื้นที่ประเทศไทยให้ได้ ขอให้ตัวเลขเป็นศูนย์ติดต่อกันย่าวนานอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าในประเทศเราไม่มีคนติดเชื้อ เราจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว