นายกฯ หารือผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ หวังร่วมมือ-มีความสัมพันธ์ที่ดีตลอดไป รับพิจารณาปมจีเอสพี ขณะที่7ประเทศอาเซียนส่งรมว.กต.ร่วมถกแทนผู้นำ
เว็บไซต์เดลินิวส์ https://www.dailynews.co.th/politics/739900 รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ห้อง Sapphire 108 ชั้น 1 อาคารอิมแพค ฟอรั่ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้พบหารือกับนายโรเบิร์ต ซี โอไบรอัน (Robert O’Brien) ผู้ช่วยประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และหัวหน้าคณะผู้แทนสหรัฐอเมริกาในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ที่เข้าร่วมประชุมดังกล่าวที่เป็นบุคคลระดับผู้นำ มี 3 ประเทศ ได้แก่ นายกรัฐมนตรีของไทย นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขณะที่อีก 7 ประเทศสมาชิกอาเซียนที่เหลือส่งรมว.ต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมแทน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับนายโรเบิร์ต ซี. โอไบรอัน และหวังว่า การทำงานทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีตลอดไป ซึ่งเชื่อว่า นายโรเบิร์ต ซี. โอไบรอัน มีความคุ้นเคยกับการทำงานของอาเซียน จึงน่าจะมีความเข้าใจว่าภูมิภาคนี้ แม้จะมีความเข้าใจแตกต่างกัน แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอเมริกามาโดยตลอดความสัมพันธ์ 200 ปี ไทย-สหรัฐฯ
ด้านผู้แทนพิเศษประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้อ่านสารจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ฝากมาถึงที่ประชุมดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญ แสดงความยินดีในการจัดการประชุมและยืนยันสหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนและความร่วมมืออาเซียน และเชิญผู้นำอาเซียนไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษในไตรมาสแรกของปี 2563 ที่สหรัฐอเมริกาด้วย
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการหารือว่า นายกรัฐมนตรีย้ำว่าไทยพร้อมร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน และเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ เช่น การลงทุน การต่อต้านการค้ามนุษย์ และการสนับสนุนบทบาทของสหรัฐฯ ในการเพิ่มพูนความร่วมมือกับภูมิภาค พร้อมฝากความระลึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ และภริยา โดยหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับที่ประเทศไทย ด้านที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ แสดงความขอบคุณในการต้อนรับอย่างอบอุ่นของไทย และกล่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ฝากหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อย้ำว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์กับไทยในฐานะมิตรประเทศอันใกล้ชิด ชื่นชมการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ และยืนยันว่าสหรัฐฯ พร้อมมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการร่วมมือกับไทยและอาเซียนเพื่อประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาคต่อไป
นางนฤมล กล่าวอีกว่า ทั้งสองฝ่ายชื่นชมความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ มีความใกล้ชิดและครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ด้านความมั่นคง รวมถึงความท้าทายในรูปแบบใหม่ ไทยมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจทั้งสองฝ่ายยินดีที่การประชุม Indo-Pacific Business Forum ในวันนี้ จะเป็นโอกาสอันดีในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะสาขาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน ดิจิทัล ทั้งนี้ระหว่างการหารือได้มีการหยิบยกประเด็นการประกาศพักสิทธิ GSP บางส่วนของไทย ซึ่งสหรัฐฯ รับไปพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนไทย