เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2562นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ส่งคำร้องถึงอัยการสูงสุดเพื่อขอให้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เครือข่ายพระวัดธรรมกาย และให้ทรัพย์สินของมูลนิธิฯตกเป็นของแผ่นดินว่า วันพรุ่งนี้ (31ก.ค.)คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอและอัยการสำนักงานการสอบสวนจะประชุมหารือร่วมกันกันในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากอัยการจังหวัดธัญบุรีที่มีความเห็นตอบกลับในเรื่องการฟ้องแพ่งว่า ในคดีดังกล่าวมีการดำเนินคดีในส่วนของคดีอาญา ซึ่งศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งคดีทางแพ่งโดยหลักแล้วจะยึดตามผลคำพิพากษาของคดีอาญาเป็นหลักคณะทำงานก็จะมีการประชุมกันในประเด็นดังกล่าว เราก็ต้องมาประชุมดูว่ามันมีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องรอผลของอาญาเพราะในส่วนของคดีอาญาก็ได้ส่งสำนวนไปแล้ว
"หลังจากการประชุมแล้วเราอาจจะมีข้อมูลเพิ่มที่จะส่งไปยังอัยการจังหวัดธัญบุรีให้เขาได้พิจารณา เรื่องนี้เราต้องประสานงานกันอีกรอบ ในส่วนคดีฟอกเงินที่มีการฟ้องมูลนิธิสำนวนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสำนักงานคดีพิเศษ"นายขจรศักดิ์ กล่าว
และว่า ในส่วนคดีฟอกเงินที่แตกออกมาจากคดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมีการแตกคดีออกไปมากถึง 30 กว่าคดีมีที่พิจารณาเสร็จไป 10 กว่าคดียังเหลืออีกหลายคดีแต่ในทุกคดีจะมีพนักงานอัยการจากสำนักงานการสอบสวนไปร่วมกับดีเอสไอ ตอนนี้คดีก็จะไปอยู่ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษบางคดี ซึ่งก็อาจจะอยู่ระหว่างการสอบเพิ่มเติมตามอำนาจของพนักงานอัยการซึ่งตนก็ทราบว่าทางอัยการสำนักงานคดีพิเศษก็ได้ยื่นฟ้องคดีที่เกี่ยวกับเงินสหกรณ์คลองจั่นไปหลายคดีแล้ว
นายจรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับคดีที่มีพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ก็ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหลายคดี เหตุผลที่คดีในส่วนของพระธัมมชโยยังสอบสวนอยู่เนื่องจากเกี่ยวกับเรื่องการติดขัดขั้นตอน การขอเส้นทางการเงิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเราต้องขอหลักฐานจากหลายฝ่ายเเละในหลายจังหวัด เราก็มีการแบ่งพนักงานสอบสวนออกเป็นหลายชุด เพื่อรับผิดชอบในแต่ละคดี บางเรื่องก็มีการขอความเป็นธรรมหรือขอแสดงพยานหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามากว่าจะสรุปสำนวนได้ก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรหรือพอส่งสำนวนไปยังชั้นอัยการก็ยังสามารถขอความเป็นธรรมเข้ามาได้ก็ต้องสอบเพิ่มเติมกันอีกพอดีมันเลยยังไม่ไป พอสอบเพิ่มก็พบข้อมูลคดีก็จะเเตกเพิ่มไปอีก เดิมมีไม่กี่คดีแต่พอไปเจอข้อมูลเพิ่มคดีก็เพิ่มอีก
สำหรับคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นจำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ สหกรณ์ฯคลองจั่นนั้นตกเป็นผู้ต้องหาหลายสำนวน ส่วนมีกี่คดีนั้นจำได้ไม่หมดต้องถามทางดีเอสไอ มีทั้งคดีที่อัยการฟ้องเป็นจำเลยเเละศาลตัดสินเเล้วก็มี เกือบทุกคดียักยอกเเละฟอกเงินจะมีนายศุภชัยที่ถูกฟ้องเนื่องจากเป็นตัวความผิดมูลฐานเกือบทุกคดี
นายขจรศักดิ์ กล่าวต่อในส่วนของการยึดทรัพย์เราก็มีการดำเนินการไปมากแล้ว ทาง ปปง.ก็ยึดทรัพย์มาได้หลายพันล้าน ตามที่ดีเอสไอได้เคยแถลงไป คดีนี้ความเสียหายมีมูลค่ามหาศาลเป็นหมื่นล้าน บางกรณีเราก็ไม่มีหลักฐานก็ยังยึดไม่ได้ แต่ถ้าเรายื่นฟ้องแล้วศาลตัดสินก็จะสามารถยึดทรัพย์เพิ่มขึ้นได้อีกอย่างคดีมูลนิธิอุบาสิกาฯ
ส่วนเรื่องการตามหาพระธัมมชโยนั้น ทางดีเอสไอก็ดำเนินการมาโดยตลอด ก็มีปัญหาที่ยังไม่ยอมปรากฏตัว บางคนบอกอยู่ในวัด บางคนบอกอยู่ต่างประเทศ แต่พอไม่ปรากฏตัวการที่เราจะเข้าไปตรวจค้นที่ใดจะต้องมีหลักฐานพอสมควรในการขอออกหมายค้น พอเราไม่รู้หลักแหล่งที่แน่นอน มันก็ยาก เรื่องการจะค้นวัดคงยังไม่มีเพราะต้องมีหลักฐานให้ชัดเจน การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสั่งการเรื่องนี้ก็เป็นการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเพียงแต่ไม่ได้ให้ข่าว ทางดีเอสไอต้องรายงานอยู่ตลอด พอดีต้องดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมายไม่สามารถไปหมกเก็บไว้ได้