‘วิษณุ เครืองาม’ มองการเลือกประธานรัฐสภา ต้องจบไม่เกินวันที่ 13 ก.ค.นี้ เพราะประธานต้องทำหน้าที่ในการเลือกโหวตนายกฯ ส่วนการโหวตหากไม่ได้ 376 เสียง สามารถโหสตได้เรื่อยๆเพราะไม่มีกรอบเวลา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 29 มิถุนายน 2566 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องประชุมให้มีการเลือกให้ได้ภายใน 10 วัน นับแต่วันเปิดรัฐสภา ในวันที่ 3 ก.ค. หรือก็คือ จะต้องไม่เกินวันที่ 13 ก.ค. นี้และไม่มีเหตุที่จะเลือกกันไม่ได้ เพราะไม่เหมือนการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ต้องใช้คะแนนเสียงเกิน 376 ของ 2 สภา แต่การเลือกประธานสภาใช้สภาเดียว และใช้เสียงข้างมากของ ส.ส.ก็สามารถทำได้
@เสนอมากกว่า 1 ชื่อได้
เมื่อถามว่า การเสนอชื่อประธานสภาสามารถเสนอชื่อแข่งขันมากกว่า 2 คนได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะเสนอแข่ง 5 คนก็ได้ และใช้เสียงข้างมากของ ส.ส.ในการตัดสิน จึงขอย้ำว่าโอกาสที่จะเลือกไม่ได้จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น หาก 2 พรรคคะแนนเสียงต่างกันใครชนะก็ได้
ถามต่อว่า หากพรรคอันดับหนึ่ง และอันดับสองเสนอชื่อแข่งกัน และหากมีกลุ่มพรรคขั้วที่สามที่มี 188 เสียง เสนอแข่งมีโอกาสส้มหล่นได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เห็นเหตุที่จะเกิดขึ้น เพราะตอนนั้นต้องเสนอไปพร้อมกัน พรรคหนึ่งก็เสนอ พรรคสองก็เสนอ และกลุ่มพรรคขั้วที่สามอยากจะเสนอก็เสนอไป 3 คนแล้วก็โหวตแข่งกัน เพราะอาจต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ หรือไม่ต้องก็ได้ขึ้นอยู่กับมติสภา แต่หากมีแล้วฟังไม่หมดก็เลื่อนไปโหวตต่อในวันถัดไปก็ได้
เมื่อถามอีกว่า ตามหลักการประธานสภาในฐานะประธานรัฐสภาเป็นผู้มีอำนาจควบคุมการเลือกนายกฯ หรือเป็นเรื่องของมติที่ประชุมรัฐสภา นายวิษณุ กล่าวว่า ประธานสภามีหน้าที่กำหนดวันโหวตนายกฯ ถึงเวลาจะเลือกกันอย่างไร มีกี่ชื่อก็เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา
@ลากโหวตนายกฯ จนกว่าจะได้ 376 เสียงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการโหวตนายกฯไม่ถึง 376 เสียง จะต้องทำยังไง นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของประธานสภาที่ต้องดำเนินการ และไม่มีกรอบเวลา จะวันรุ่งขึ้นหรือ 7 วันหรือ 15 วันก็ได้ โดยให้สมาชิกกลับไปคิด
ถามว่า ดูจากสถานการณ์การเมืองขณะนี้มองว่าจะเลือกนายกฯ ได้ช้าหรือเร็ว นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ
เมื่อถามต่อว่า หากเกิดเหตุการณ์เลือกนายกฯ ไม่ได้ ประธานสภาสามารถเป็นผู้กำหนดพลิกเกมไปเลือกแคนดิเดตคนอื่นได้หรือไม่ หรือเป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภา นายวิษณุพยักหน้า พร้อมระบุว่า ตอนนั้น ส.ส.ปฎิญาณตนเสร็จแล้ว จึงมีฐานะในการประชุมสภาปกติ ใครเสนอมาถ้าอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยก็เสนอมาแข่ง ประธานสภาก็จะให้โหวตกันว่าจะเลือกแบบไหน
ส่วนหากเลือกนายกฯ ไม่ได้ แต่ต้องการเลือกต่อ เป็นอำนาจสมาชิกรัฐสภา หรือประธานรัฐสภา นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ประธานรัฐสภาจะนัดวัน แต่ส่วนใหญ่ประธานรัฐสภาจะฟังเสียงสมาชิก
เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่หากนัดโหวตนายกฯ เพื่อเปิดทางมีการล็อบบี้กันใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องล็อบบี้สื่อเป็นคนพูด การนัดใหม่อาจมีเหตุหลายอย่างก็ได้เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ไม่ให้ลงมติในวันเดียวกัน เพราะต้องการให้กลับไปคิดกันใหม่ เพราะอาจจะมาด้วยขอเสนอที่ดีกว่าเดิมก็ได้ เช่น เปลี่ยนคน
ถามย้ำว่า สุดท้ายคือใช้มติเสียงข้างมากในการตัดสินใช่หรือไม่ นายวิษณุ พยักหน้าและบอกว่า "ใช่"
ที่มา: ไทยโพสต์