ครม.ไฟเขียวเพิ่มรายการยาต้านไวรัส 'โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir)' ในบัญชียาของ UCEP Plus มีผลตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติอนุมัติเป็นต้นไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 7 มี.ค. 66 ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต [กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด19] หรือ หลักเกณฑ์ UCEP Plus (ฉบับที่3) โดยมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขหลักเกณฑ์ UCEP Plus และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 65 เป็นต้นมา เพื่อเพิ่มรายการยาต้านไวรัสโควิด19 ในบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ฯ ค่ายา จำนวน 1 รายการ ได้แก่ รายการการยาต้านไวรัส Molnupiravir 200 mg ในอัตรา 15 บาท/เม็ด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติอนุมัติเป็นต้นไป
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันองค์การเภสัชกรรมและบริษัทยาสามารถจำหน่ายยา Molnupiravir ให้แก่โรงพยาบาลเอกชนได้แล้ว จึงสามารถกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายที่แน่นอนสำหรับยา Molnupiravir ในบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายหลักเกณฑ์ UCEP Plus ได้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หลังการเพิ่มรายการยาข้างต้นแล้ว จะทำให้รายการยาต้านไวรัสโควิด19 ในบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP Plus มี 2 รายการ ได้แก่ Favipiravia 200 mg ราคา 14.50 บาทต่อหน่วย (รายการเดิม) และ Molnupiravir 200 mg ราคา 15 บาทต่อหน่วย(เพิ่มเติมครั้งนี้)
ส่วนกรณียาต้านไวรัส 3 รายการ ได้แก่ Remdesivir, Nirmatrelvir/Ritonavir และ Tixagevimab/Cilgavimab(Long-acting Antibody) ให้เบิกยาหรืออัตราค่าใช้จ่ายจากกองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม หรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กองทนุของผู้มีสิทธิแต่ละกองทุนกำหนดแล้วแต่กรณี