กสม. หารือ รมว.ยุติธรรม ปรับปรุงกฎกระทรวงกรณีปฏิบัติต่อผู้ต้องขังระหว่างยังไม่มีคำตัดสิน ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ-กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองมากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ร่วมหารือกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นำโดย นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ นางสาวสุภัทรา นาคะผิว และนางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย กสม. เพื่อหารือถึงการร่างกฎกระทรวงเพิ่มหลักการเกี่ยวกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และหลักสิทธิมนุษยชนสากล โดยมี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิทยา สุริยะวงค์ อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนางสาวจุฑารัตน์ จินตกานนท์ รองอธิบดี กรมราชทัณฑ์ เข้าร่วมการหารือ
โดยที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องสิทธิผู้ถูกกักขังระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 ได้กำหนดหลักสันนิษฐานว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ (presumption of innocence) ไว้ว่า ในคดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทําความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทําความผิดมิได้ การควบคุมหรือคุมขังผู้ต้องหาหรือจำเลยให้กระทําได้เท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันมิให้มีการหลบหนี โดยคำขอประกันตัวต้องได้รับการพิจารณา หลักประกันต้องไม่มากเกิน และการไม่ให้ประกันต้องเป็นไปตามกฎหมาย
กสม. จึงมีข้อเสนอให้มีการทบทวนกฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา 89/1 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) มากยิ่งขึ้น โดยเสนอให้มีการกำหนดสถานที่ควบคุมตัว คุมขัง ตามที่ศาลเห็นสมควร ในระหว่างการพิจารณาคดี กำหนดพื้นที่ควบคุมให้เหมาะสมตามลักษณะของผู้ต้องขังและประเภทของคดี และให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโดยมีตัวแทนจากทุกฝ่ายเพื่อพิจารณาจัดทำข้อเสนอการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้สอดคล้องกับบริบทของสังคม โดยกระทรวงยุติธรรมขอรับความเห็นดังกล่าวเพื่อไปพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงตามขั้นตอนที่กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดต่อไป