ตำรวจทลายแก๊งปล่อยกู้-ทวงหนี้โหดภาคอีสาน จับกุมได้ 26 ราย ของกลาง 1,796 ชิ้น พบทำผิดในพื้นที่ จ.มหาสารคาม-กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด พบผู้ร่วมกระทำความีประวัติอาชญากรรม-ยาเสพติด เปิดปล่อยกู้คิดดอก 0.83% ต่อเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.กริช วรทัต รอง ผกก.5 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลยุทธการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบ ทำการจับกุม นายเสวก หรือใหญ่ มั่นปาน อายุ 43 ปี และ น.ส.ฐานิตา มั่นปาน หรือ เจ๊เล็ก อายุ 39 ปี กับพวก รวม 26 ราย ในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และ ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ โดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลาง 11 รายการ อาทิ โทรศัพท์มือถือ, สมุดบัญชีเงินฝาก และเอกสารเกี่ยวกับลูกหนี้ รวมจำนวน 1,796 ชิ้น
พล.ต.ต.พุฒิเดช เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มประชาชนผู้เสียหายในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ว่าถูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบในพื้นที่ ข่มขู่ คุกคาม รวมถึงบุกเข้าไปข่มขู่ถึงที่ทำงาน และที่บ้าน ทำให้เกิดความหวาดกลัว เกรงว่าจะได้รับอันตรายจนต้องหลบซ่อนตัว โดยเครือข่ายดังกล่าวได้ปล่อยเงินกู้นอกระบบและเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.83 บาท ต่อวัน หรือ ร้อยละ 25 บาท ต่อเดือน หรือ ร้อยละ 303 บาท ต่อปี
โดยเครือข่ายดังกล่าวมี น.ส.ฐานิตา หรือเจ๊เล็ก และนายเสวก หรือใหญ่ สองสามีภรรยาเป็นนายทุน คอยดูแลลูกน้องที่ออกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้รายวันจำนวนหลายสิบคน ซึ่งรวมตัวกันพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม และพื้นที่ใกล้เคียง ใช้ รถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส รุ่นเก่า กว่า 20 คัน ออกตระเวรปล่อยเงินกู้ และเก็บดอกเบี้ย จากลูกหนี้ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ โดยในช่วงเช้าจะรวมตัวกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.อิสานบริการ ริมถนนสายมหาสารคาม - กาฬสินธุ์ เพื่อรอรับรายชื่อลูกหนี้ และยอดเงินที่จะปล่อยกู้จากเจ๊เล็ก จากนั้นจะแยกย้ายกันออกปล่อยเงินกู้ และตามเก็บดอกเบี้ยรายวัน
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 24 ราย และสนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) เปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ในพื้นที่จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 10 ราย และดำเนินคดีกับผู้ที่ร่วมกระทำความผิดอีก 16 ราย รวม 26 ราย ได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน นายเสวกให้การรับสารภาพ นอกจากนี้พบว่าเครือข่ายดังกล่าวเคยทำมาแล้วกว่า 5 ปี และนายเสวกยังเคยถูกจับกุมเมื่อปี 2553 และ 2558 ในคดีเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ ส่วนกลุ่มคนที่นายเสวกรวบรวมมานั้น เคยมีประวัติต้องโทษ 10 ราย โดยเป็นวัยรุ่นที่ว่างงาน บางคนเคยมีประวัติยาเสพติด หรือทำงานในลักษณะนี้มาก่อน เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดซึ่งถูกออกหมายจับแล้ว จำนวน 14 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี รวมผู้ร่วมกระทำความผิดในเครือข่ายกว่า 40 ราย ซึ่งถือเป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสืบสวนจับกุมมา คาดว่ามีผู้เสียหายถึงหลักพันคน และมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท โดยหลังจากนี้จะสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป