คอมมานโดแถลงผล 'ยุทธการปราบคนพาล' เข้าตรวจค้น 17 จุด 12 จังหวัด จับผู้ต้องหาคดีฆ่า,อาวุธปืน,ยาเสพติดได้ 17 ราย พบมีเครือข่าย 'กำนันเซี้ยะ'-แก๊งโอชิด้วย
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปพ. พ.ต.อ.จักรวรรดิ บุญทวีกุลสวัสดิ์ รอง ผบก.ปพ. พ.ต.อ.ชัยฏิภูมิ อำนวยชัย ผกก.5 บก.ปพ. พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.ปพ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการปฏิบัติ "ยุทธการปราบคนพาล" โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) เข้าตรวจค้น 17 จุด ใน 12 จังหวัด ประกอบด้วยเชียงราย, แม่ฮ่องสอน, นนทบุรี, กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, กาญจนบุรี, ฉะเชิงเทรา, จันทบุรี, นครศรีธรรมราช, ขอนแก่น,นครพนม และ กาฬสินธุ์ ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่า, อาวุธปืน และยาเสพติด 17 ราย
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า สำหรับผลปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 17 ราย แบ่งเป็นคดีฆ่าผู้อื่น 6 ราย, คดีพยายามฆ่า 7 ราย, คดีปล้นทรัพย์ 3 ราย และ ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จากการสอบสวนผู้ต้องหาทุกคนยอมรับสารภาพ แต่บางส่วนอ้างไม่ทราบว่ามีหมายจับ รวมถึงบางส่วนเกี่ยวพันกับบุคคลมีชื่อเสียง โดยในกรณีที่มีความเกี่ยวพันกับบุคคลที่มีชื่อเสียงนั้น ขอเรียนว่า บช.ก. คิดว่าเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นญาติใคร จะมีฐานะยากจนหรือร่ำรวย หรือจะมีชื่อเสียงหรือไม่ ทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมายและข้อเท็จจริง
ด้าน พล.ต.ต.ภูมินทร์ เปิดเผยว่า ผลปฏิบัติการ สามารถจับกุมนายวรเชษฐ จันทพันธ์ อายุ 63 ปี พ่อของนักแสดงหนุ่ม "นิกกี้" ณฉัตร จันทพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับฐานพยายามฆ่า และ พ.ร.บ.อาวุธปืน หลังใช้ปืนลูกกรดยิงใส่คนขับรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งนำรถไปจอดหน้ารีสอร์ทของตัวเอง ใน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และรถยนต์เสียหาย ก่อนถูกจับกุมและศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 5 ปี แต่เจ้าตัวอ้างว่าทำปืนลั่นใส่คนขับรถเท่านั้น แล้วใช้สิทธิ์ประกันตัว ก่อนจะหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลฏีกาตามนัด เมื่อปี 2560 แล้วมาใช้ชีวิตตามปกติ เปิดช่องยูทูปจนมีผู้ติดตามหลักแสนคน กระทั่งมาถูกจับกุม ที่บ้านเลขที่ 100 หมู่บ้านวิภาวรรณ ถนนเลี่ยงเมืองสนามบิน 15 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.ภูมินทร์ กล่าวอีกว่า คดีต่อมาเป็นการจับกุม นายคม ธนิกุล อายุ 35 ปี ลูกชายของนายแคล้ว ธนิกุล อดีตเจ้าพ่อเมืองหลวงโดยจับกุมนายคม ได้ริมถนนใน ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช หลังเมื่อปี 2562 นายคม ใช้ปืนยิงคนเร่ร่อน หน้าศาลาที่พักผู้โดยสารริมถนนแสงชูโต ม.9 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพียงเพื่อเป็นการคลายเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับครอบครัวของนายคม ภายหลังนายแคล้ว เสียชีวิต ภรรยาได้แต่งงานใหม่กับนายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี้ยะ เจ้าพ่อตะวันตก ฉายา พยัคฆ์ประจิม ทำให้นายคม จึงมีศักดิ์เป็นลูกบุญธรรมอีกด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมผู้ต้องรายอื่นๆ โดยมีคดีที่น่าสนใจ อาทิ การจับกุม นายทศพล อุดมดี อายุ 42 ปี ข้อหา "ฆ่าเผานั่งยาง ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันย้ายทำลายศพ" หลังก่อเหตุฆ่าอดีตทหารอากาศ ที่มาปะยางรถจักรยานยนต์กับทางผู้ต้องหา แต่ไม่จ่ายเงิน อีกทั้งพูดจาข่มขู่ ส่งผลให้ผู้ต้องหาโมโห ประกอบกับความเมาสุรา ใช้มีดไล่แทงผู้ตายแต่ตามไม่ทัน ก่อนร่วมกับพวก 4 คน ขับรถกระบะไล่ชน และใช้ไม้ตีซ้ำ จากนั้นขับรถเหยียบซ้ำ ก่อนนำศพไปเผานั่งยางเพื่ออไพรางศพ โดยใช้ยางรถจากร้านตัวเอง และหนีคดีนาน 15 ปี กระทั่งถูกจับที่ จ.ขอนแก่น
อีกคดีเป็นการจับกุมนายณัฐศักดิ์ สถาวรสมิด อายุ 31 ปี ข้อหา "ร่วมกันพนายามฆ่าเจ้าพนักงาน และมีอาวุธ" ซึ่งผู้ต้องหาเป็นหัวหน้าแก๊งโอชิ กลุ่มค้ายาเสพติด ใน จ.ชลบุรี ได้ใช้ปืนลูกซองสั้น ยิงใส่ตำรวจสายตรวจขณะเข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นกลุ่มอื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
และคดีการจับกุม นายมานะ เสริมทรัพย์ อายุ 42 ปี ข้อหา "ร่วมกันฆ่าโดยเจตนา และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น" หลังเมื่อปี 2555 ผู้ต้องหากับพวกรวม 4 คน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกลางงานวัด ที่วัดโพธิ์ศรี จ.ปราจีนบุรี และใช้มีดปลายแหลมกับมีดอีโต้ รุมทำร้ายแทงคอวัยรุ่นฝ่ายตรงข้ามทะลุออกปาก มีผู้บาดเจ็บและ ผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย ก่อนหลบหนีกระทั่งถูกจับกุม