คลัสเตอร์เรือนจำติดเชื้อใหม่ 148 ราย รักษาหายเพิ่ม 430 ราย เสียชีวิต 1 ราย กรมราชทัณฑ์ กำชับทุกเรือนจำ กักตัวและตรวจหาเชื้อผู้พ้นโทษก่อนปล่อยพร้อมเน้นย้ำทุกฝ่าย ดำเนินการตามมาตรการป้องกันเชื้ออย่างเคร่งครัด
-------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2564 นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถานวันนี้ สถานะเรือนจำยังคงที่ มีเรือนจำสีแดง ที่พบการระบาด 36 แห่ง และเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 106 แห่ง
ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ มีจำนวน 148 ราย มาจากพบในเรือนจำสีแดง 78 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 70 ราย รักษาหายเพิ่ม 430 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,306 ราย แบ่งเป็นกลุ่มสีเขียว 88.2% สีเหลือง 11.4% และสีแดง 0.4% เป็นพื้นที่ กทม. 228 ราย ปริมณฑล 1,133 ราย และต่างจังหวัด 3,945 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 48,314 ราย หรือ 88.8% ของผู้ติดเชื้อสะสม 54,410 ราย เสียชีวิตสะสม 90 ราย หรือ 0.17% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว แม้ว่าได้ดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุม ได้กำชับและทำความเข้าใจแนวทางการปล่อยตัวผู้ต้องขังให้มีความชัดเจนและถูกต้องตามระเบียบที่วางไว้ เพื่อถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน ทั้งในเรือนจำสีแดง และเรือนจำสีขาว ตั้งแต่กลุ่มผู้ต้องขังที่ติดเชื้อและรับการรักษาอยู่ กลุ่มผู้ต้องขังไม่ติดเชื้อแต่มีความเสี่ยงสูง จนถึงกลุ่มผู้ต้องขังที่เคยติดเชื้อแต่ได้รับการรักษาจนหายและมีภูมิคุ้มกันแล้ว ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการปล่อยตัวผู้พ้นโทษที่ติดเชื้อเพื่อทำการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ทุกกรณีโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อไปแพร่ระบาดภายนอก
นอกจากนี้ ยังได้ติดตามการดำเนินการเรื่องยาฟ้าทะลายโจร ที่ต้องเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อจ่ายยาให้แก่ผู้ต้องขังได้อย่างทั่วถึงและทันเวลาหากเกิดการระบาดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันเชื้อก่อนเข้าสู่เรือนจำ ที่จะต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะในเรือนจำที่ไม่เคยมีการระบาดเลย หรือเรือนจำที่พ้นการระบาดแล้ว ทั้งการตรวจหาเชื้อเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าทำงาน การตรวจเชื้อและกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ รวมถึงการทำความความสะอาดและฆ่าเชื้อสิ่งของเครื่องใช้ ซึ่งต้องดำเนินการป้องกันเชื้อต่อไปอย่างเคร่งครัด
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 55 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 23 ราย เด็กและเยาวชน 32 ราย ผลการดำเนินงานสถานพินิจฯและศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 44 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 12 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและรอผล 3 แห่ง และติดเชื้อ 9 แห่ง สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็น 135 ราย หรือคิดเป็น 3.24% จากทั้งหมด 4,167 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 3,795 ราย หรือคิดเป็น 87% จากทั้งหมด 4,357 ราย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage