ผู้ต้องขังป่วยใหม่ 1,072 ราย รักษาหายเพิ่ม 194 ราย กรมราชทัณฑ์เร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุก ชี้รีบรักษา-รับยาเร็ว ช่วยลดอาการความรุนแรง-เสียชีวิตได้ดี พร้อมสั่งเข้มเจ้าหน้าที่ตรวจเชื้อก่อนเข้าเรือนจำทุกครั้ง
----------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,072 ราย แบ่งเป็น พบในเรือนจำสีแดง 1,001 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 71 ราย หายป่วยเพิ่ม 194 ราย รวมยังมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,187 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตต่อเนื่องเป็นวันที่ 13
ในวันนี้ มีเรือนจำสีขาวที่ปลอดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ ขณะเดียวกันเรือนจำสีแตงก็เพิ่มขึ้น 1 แห่งเช่นกัน จากเรือนจำจังหวัดปทุมธานีที่พบการแพร่ระบาด ส่งผลให้จำนวนเรือนจำสีขาวรวม 112 แห่ง และเรือนจำสีแดง 22 แห่ง สำหรับผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างรักษา แบ่งเป็นกลุ่มสีเขียว 84.3% สีเหลือง 15.3% และสีแดง 0.4% มีผู้ป่วยที่รักษาหายสะสมแล้ว 36,864 ราย หรือ 86.9% ของผู้
ติดเชื้อสะสม 42,445 ราย และมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.19 ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ภายนอกที่พบการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้างมากขึ้น ส่งผลให้เรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งมีความเสี่ยงมากขึ้น กรมราชทัณ ได้ยกระดับมาตรการที่เข้มข้นในการป้องกัน โดยเฉพาะการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ทั้งในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องชัง ยิ่งในเรือนจำสีแดงที่แพร่ระบาดเดิม ต้องเร่งคันหาและคัดแยกผู้ติดเชื้อให้ใด้รับการรักษาโดยเร็ว อันจะเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรค สามารถ
ควบคุมการระบาตและกลับคืนสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว จึงอาจทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อและมีเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นได้ในระยะนี้ ซึ่งจากดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า การให้ผู้ติดเชื้อเข้าถึงการรักษา
ที่รวดเร็ว และได้รับยาทันเวลา จะสามารถลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ อันจะช่วยลดผู้ป่วยอาการหนัก และลดความสูญเสียไต้ในท้ายที่สุด
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้กำชับแนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ โดยก่อนการเข้าปฏิบัติงานจะต้องตรวจหาเชื้อพร้อมยืนยันผลว่ไม่ติดเชื้อทุกครั้ง และในเรือนจำสีแดงจะต้องตรวจซ้ำอีกครั้งก่อนออก เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้าและออกจากพื้นที่แพร่ระบาต โดยในระหว่างพักเวร หรือไม่ใด้ปฏิบัติหน้าที่ จะต้องป้องกันตนเองจากเชื้อตามมาตรการ D-M-H-T รวมถึงมาตรการอื่นๆ ของกรมราชทัณฑ์ที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage