ผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 192 ราย หายป่วยอีก 6 ราย เสียชีวิต 1 ราย กรมราชทัณฑ์เผยรักษาหายรวมแล้ว 94.6% เรือนจำในพื้นที่ กทม.-นนทบุรีเหลือผู้ป่วยต่ำกว่า 500 ราย พร้อมปรับเป็นเรือนจำสีขาวเร็วๆ นี้
.............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2564 นายอายุคม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถานพบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 192 ราย รักษาหายเพิ่ม 6 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 1,705 ราย
นายอายุตม์ เปิดเผยว่า สถานะเรือนจำสีขาวและสีแดงยังคงที่ คือเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาด 122 แห่ง และเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 11 แห่ง วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากเรือนจำสีแดง จำนวน 190 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 2 ราย มีผู้ป่วยที่รักษาหาย 6 ราย รวมหายสะสม 35,456 ราย หรือ 94.6% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 37,472 ราย สำหรับผู้ต้องขังที่ยังรักษาตัวอยู่ แบ่งเป็นผู้ป่วย กลุ่มสีเขียว 64.3% สีเหลือง 35.1% และสีแดง 0.6% ผู้เสียชีวิตสะสม 47 ราย หรือ 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสม
นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิต 1 รายในวันนี้ เป็นผู้ต้องชังชายอายุ 62 ปี จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง X-ray พบปอดอักเสบ ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir Dexamethasone ยาปฏิชีวนะระดับสูง ออกชิเจน HFNC และรักษาด้วย Remdesivir แต่ยังมีอาการเหนื่อย ได้ปรึกษาญาติพิจารณารักษาประคับประคอง ต่อมาผู้ป่วยซึมลงวัดสัญญาณชีพไมได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเรือนจำและทัณฑสถานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและนนทบุรี ถือว่าเกือบจะเป็นปกติแล้ว ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ระหว่างรักษา รวมทุกแห่งอยู่ที่ 473 ราย โดยมีเพียงเรือนจำพิเศษมีนบุรี ที่ยังอยู่ระหว่างการควบคุมโรคและค้นหาผู้ติดเชื้อที่พบการระบาดในบางแดนเท่านั้น เช่นเดียวกับเรือนจำและทัณฑสถานในเขตพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัดที่ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากการค้นหาเพื่อการคัดแยกและรักษา ทั้งนี้ สถานการณ์โดยรวมยังถือว่าไม่น่าเป็นห่วงเพราะทุกฝ่ายได้เรียนรู้วิธีการรับมือ และเตรียมแผนรองรับการแพร่ระบาดอยู่แล้ว ซึ่งรวมถึงการเตรียมยาเวชภัณฑ์ และบุคลากรเพื่อปฏิบัติงาน ภายใต้การประสานงานกับโรงพยาบาลแม่ช่ายและสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่อย่างเป็นระบบ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage