ติดเชื้อเพิ่ม 3,277 ราย รวมสะสม 193,105 ราย หายป่วยเพิ่ม 5,273 ราย เสียชีวิตอีก 29 ราย ฉีดวัควัคซีนแล้วรวมกว่า 5.9 ล้านโดส ศบค.เผยพื้นที่ กทม.พบเพิ่ม 2 คลัสเตอร์แคมป์คนงาน
------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ติดป่วยรายใหม่ 3,277 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,356 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,770 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 586 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 892 ราย และอีก 29 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 193,105 ราย หายป่วยเพิ่ม 5,273 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 41,403 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,242 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 362 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,431 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 29 ราย มาจาก กทม. 21 ราย สมุทรปราการ นนทบุรี จังหวัดละ 3 ราย และปทุมธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต อุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 12 ราย อายุระหว่าง 30-92 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไต หลอดเลือดสมอง โรคปอด หัวใจ โรคอ้วน มะเร็ง SLE และไม่มีโรคประจำตัว 6 ราย ส่วนปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อจากคนอื่น ๆ ได้แก่ ผู้ป่วยใน รพ. เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน แฟน ผู้ป่วยในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และคนในครอบครัว เช่น ภรรยา น้อง ญาติ อยู่หรือไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน อาชีพเสี่ยง ได้แก่ ค้าขาย ขับรถสาธารณะ และอาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด
ส่วน 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 858 ราย สมุทรปราการ 313 ราย นนทบุรี 291 ราย สมุทรสาคร 188 ราย ปทุมธานี 81 ราย นครปฐม 78 ราย ชลบุรี 76 ราย พระนครศรีอยุธยา 39 ราย ตราด 37 ราย และเพชรบุรี 34 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 29 ราย ประกอบด้วย ญี่ปุ่น 1 ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย ซาอุดิอาระเบีย 4 ราย โอมาน 3 ราย มาเลเซีย 1 ราย และกัมพูชา 19 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 219,241 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 219,241 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 5,975,070 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 219,241 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 1,612,385 ราย
@ กทม.พบเพิ่ม 2 คลัสเตอร์แคมป์คนงาน
สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในพื้นที่ กทม.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 858 ราย แบ่งเป็น ชาวไทย 722 ราย และชาวต่างด้าว 136 ราย ทั้งนี้มีพื้นที่เฝ้าระหว่างทั้งหมด 80 คลัสเตอร์ เป็นคลัสเตอร์ใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ แคมป์ที่พักคนงาน JWS เขตวัฒนา และแคมป์ที่พักคนงาน บริษัท ทีฆา เขตจุตจักร
@ คลัสเตอร์กำแพงเพชรสัมผัสกันในชุมชน ติดเชื้อ 25 ราย
ศบค.รายงานสถานการณ์การระบาดที่พบในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย จังหวัดนนทบุรี พบการระบาดที่แคมป์ก่อสร้างชาวไทย เมียนมา กัมพูชา กระจายใน 3 อำเภอ พบผู้ติดเชื้อรายเพิ่ม 192 ราย รวมสะสม 1,353 ราย คลัสเตอร์ตลาดบางใหญ่ ติดเชื้อเพิ่ม 10 ราย รวมสะสม 63 ราย จังหวัดสมุทรปราการ ตลาดสำโรง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย รวม 334 ราย โรงงานผลิดและจำหน่ายอาหารกึ่งสำเร็จรูป บางเสาธง ะบ ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย รวมสะสม 5 ราย
จังหวัดปทุมธานี โรงงานแปรรูปไก่ ลำลูกกา ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย รวมสะสม 1,165 ราย และบริษัทอะลูมิเนียม คลองหลวง ติดเชื้อเพิ่ม 8 ราย รวมสะสม 8 ราย จังหวัดนครปฐม ตลาดศรีวิชัย พื้นที่ติดเชื้อกระจาย 3 อำเภอ ติดเชื้อเพิ่ม 20 ราย รวมสะสม 39 ราย จังหวัดสมุทรสาคร โรงงานลูกชิ้น อำเภอเมือง ติดเชื้อเพิ่ม 20 ราย รวมสะสม 20 ราย และโรงงานขนม กระทุ่มแบน ติดเชื้อเพิ่ม 45 ราย รวมสะสม 45 ราย จังหวัดเพชรบุรี ตลาดสด อำเภอเมือง ติดเชื้อเพิ่ม 9 ราย รวมสะสม 9 ราย จังหวัดกำแพงเพชร เกิดการสัมผัสกันในชุมชน พื้นที่อำเภอเมือง ติดเชื้อเพิ่ม 25 ราย รวมสะสม 25 ราย จังหวัดจันทบุรี ตลาดผลไม้เนินสูง ท่าใหม่ ติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย รวมสะสม 6 ราย และจังหวัดฉะเชิงเทรา ค่ายทหาร อำเภอเมือง ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย รวมสะสม 7 ราย
@ ทั่วโลกป่วย 411,614 ราย สะสม 176.04 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 411,614 ราย รวม 176,041,306 ราย อาการหนัก 93,398 ราย หายป่วย 159,606,657 ราย เสียชีวิต 3,800,595 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 16,145 ราย รวม 34,306,446 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 421 ราย รวม 614,738 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 84,695 ราย รวม 29,358,033 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4,000 ราย รวม 367,097 ราย บราซิล พบเพิ่ม 86,061 ราย รวม 17,301,220 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,215 ราย รวม 484,350 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 79 ของโลก
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/