ป่วยโควิด 2,290 ราย เป็นคลัสเตอร์เรือนจำ 294 ราย รวมสะสม 189,828 ราย เสียชีวิตอีก 27 ราย ฉีดวัควัคซีนแล้วรวมกว่า 5.6 ล้านโดส พร้อมเผยผลชันสูตรหญิงอายุ 46 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน เป็นกล้ามเนื้อหัวใจตายตัวเฉียบพลัน ยันไม่ได้กินยาไมเกรนตัวเดียวกับที่เป็นข่าว
------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2564 เวลา 12.30 น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดป่วยรายใหม่ 2,290 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,966 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,334 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 632 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 294 ราย และอีก 30 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 189,828 ราย หายป่วยเพิ่ม 5,711 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 43,428 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,287 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 352 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 27 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,375 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 27 ราย มาจาก กทม. 17 ราย ปทุมธานี และสมุทรสาคร จังหวัดละ 2 ราย สมุทรปราการ กาญจนบุรี กำแพงเพชร ชัยนาท ราชบุรี และสระบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 15 ราย หญิง 12 ราย มีอายุระหว่าง 48-94 ปี มีค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 67 ปี
โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว แบ่งเป็น ความดันโลหิตสูง 13 ราย เบาหวาน 7 ราย ไขมันในเลือดสูง 10 ราย โรคไต 4 ราย โรคตับ หลอดเลือดสมอง 2 ราย มะเร็ง โรคอ้วน SLE 1 ราย และไม่มีโรคประจำตัว 5 ราย
ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ส่วนใหญ่มาจากคนอื่นๆ เช่น ผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพื่อนร่วมงาน เพื่อน คนในชุมชน และผู้ดูแล 11 ราย รองลงมาคือคนในครอบครัว 6 ราย อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด 7 ราย อยู่หรือไปในสถานที่เสี่ยง เช่น ห้างสรรพสินค้า 2 ราย และระบุได้ไม่ชัดเจน 1 ราย
โดย 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 942 ราย สมุทรปราการ 173 ราย นนทบุรี 102 ราย สมุทรสาคร 98 ราย นครปฐม 83 ราย สงขลา 70 ราย เพชรบุรี 56 ราย ปทุมธานี 50 ราย ชลบุรี 47 ราย และจันทบุรี 37 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 30 ราย ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร 1 ราย อิหร่าน 1 ราย ซาอุดิอาระเบีย 15 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย และกัมพูชา 12 ราย ซึ่งในวันนี้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ลักลอบเข้าไทย
@ ไทยติดอันดับ 3 อาเซียน ได้รับวัคซีนโควิดรวม 5.6 ล้านโดส
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงจำนวนผู้ได้รับวัคซีนโควิดของประเทศไทย แยกตามกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข ได้รับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 712,757 ราย คิดเป็น 100.1% โดย 0.1% ที่เกินจากที่ตั้งเป้าหมายไว้คือบุคลากรการแพทย์ที่เกษียณอายุไปแล้ว และได้รับวัคซีนแล้ว จึงนำตัวเลขมารวมในส่วนนี้ ส่วนในเข็มที่ 2 นั้น มีผู้รับแล้ว 607,986 ราย คิดเป็น 85.4%
เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ได้รับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 552,976 ราย คิดเป็น 29.1% และได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 231,590 ราย คิดเป็น 12.2%
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ได้รับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 216,200 ราย คิดเป็น 21.6% และได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 92,854 ราย คิดเป็น 9.3%
ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้รับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 471,229 ราย คิดเป็น 8.8% และได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 82,014 ราย คิดเป็น 1.5%
ประชาชนทั่วไป ได้รับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 1,540,217 ราย คิดเป็น 5.4% และได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 481,138 ราย คิดเป็น 1.7%
ผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ได้รับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 650,065 ราย คิดเป็น 5.2% และได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 28,032 ราย คิดเป็น 0.2%
รวมทั้งประเทศมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 4,143,44 ราย คิดเป็น 8.3% และมีผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 1,523,614 ราย คิดเป็น 3.0% ซึ่งประเทศไทยจัดเป็นอันดับที่ 3 ในประเทศกลุ่มอาเซียนที่ได้รับวัคซีนโควิด ทั้งนี้ตัวเลขข้างต้นยังไม่นับรวมของผู้ที่ฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งรวบรวมข้อมูล คาดว่าสัปดาห์จะมีการรวบรวมตัวเลขที่แม่นยำมากขึ้น
@ กทม.พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่ เป็นตลาด-แคมป์-โรงงาน
พญ.อภิสมัย สถานการณ์การระบาดในกรุงเทพมหานคร ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อถึง 942 ราย มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง 78 คลัสเตอร์ โดยเป็นคลัสเตอร์ใหม่ 3 แห่ง เป็นแคมป์ก่อสร้างวรสิทธิ์ เขตหลักสี่ พบผู้ติดเชื้อ 59 คน ตลาดซอยละลายทรัพย์ เขตบางรัก มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 20 คน และโรงงานเย็บผ้า เขตภาษีเจริญ พบผู้ติดเชื้อ 37 ราย
@ กทม.ตรวจตลาดอีก 42 แห่ง ไม่ผ่านเกณฑ์ 7 แห่ง
สำหรับผลการตรวจตลาดของ กทม. อีก 42 แห่ง มี 20 แห่งผ่านเกณฑ์ รอตรวจซ้ำอีก 15 แห่ง ส่วนอีก 7 แห่งไม่ผ่านเกณฑ์การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งมีสาเหตุมาจากการไม่มีเว้นระยะห่างและไม่มีการควบคุมการเข้าออกตลาด บางแห่งไม่มีไทยชนะ และบางแห่งไม่ผ่านเกณฑ์ความสะอาด
@ พบ 6 คลัสเตอร์ใหม่ ใน 5 จังหวัด
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดในพื้นที่จังหวัดอื่นว่า พบ 6 คลัสเตอร์ใหม่ ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรปราการ เป็นบริษัทส่งออกเสื้อถักไหมพรม ติดเชื้อ 67 ราย จังหวัดนครปฐม เป็นคลัสเตอร์โรงงานไก่ ติดเชื้อ 63 ราย จังหวัดเพชรบุรี เป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์ อ.เขาย้อย ติดเชื้อ 24 ราย ส่วนจังหวัดสงขลา พบ 2 คลัสเตอร์ใหม่ เป็นตลาดวชิรา ที่อำเภอเมือง ติดเชื้อ 7 ราย และโรงงานถุงมือยาง อำเภอสะเดา ติดเชื้อ 19 ราย และจังหวัดจันทบุรี พบคลัสเตอร์ตลาดไทย-กัมพูชาที่อำเภอโป่งน้ำร้อน ติดเชื้อ 13 ราย
@ เผยผลชันสูตรหญิง 46 ปี ตายหลังรับวัคซีน กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
ด้าน นาวาอากาศตรี นพ.อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย หัวหน้าแผนกนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 5.6 ล้านโดส ดังนั้น การเกิดเหตุไม่พึงประสงค์จึงเกิดขึ้นได้ และขอทำความเข้าใจดังนี้ 1.อาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน ไม่เท่ากับผลข้างเคียง และไม่เท่ากับการแพ้วัคซีน 2.การแพ้วัคซีนพบในอัตราน้อยกว่า 1 กรณีต่อการฉีด 1 แสนโดส อยู่ในระดับถือว่าวัคซีนมีความปลอดภัย 3.ปัจจุบันยังไม่มีผู้เสียชีวิตรายใดเกิดจากการฉีดวัคซีน โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญสรุปผลแล้ว 12 ราย มีโรคและเหตุการเสียชีวิตชัดเจนและไม่ได้เกิดจากวัคซีน
สำหรับกรณีหญิง อายุ 46 ปีที่ จ.ปทุมธานี เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนโควิดนั้น ไทม์ไลน์ของผู้ป่วย คือ 11.45 น.ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ศูนย์ฉีดวิทยาลัยเทคนิคไทย สังเกตอาการครบ 30 นาที ไม่พบอาการผิดปกติ หลังกล้บบ้านเริ่มไข้ อ่อนเพลีย เวลา 22.00น. เกิดอาการชัก เกร็ง หมดสติ เพื่อนบ้านได้ปั๊มหัวใจและเรียดรถพยาบาล เวลา 23.10 น. ปั๊มหัวใจ กู้ชีพไม่สำเร็จและประกาศการเสียชีวิต แพทย์เวรลงความเห็นว่าตายแบบไม่ปรากฎเหตุและไม่ทราบสาเหตุ จึงส่งศพชันสูตรละเอียดที่โรงพยาบาลภูมิพล
ผลการชันสูตรศพ พบว่า ผู้ป่วยมีภาวะบวมน้ำที่ปอด 2 ข้างอย่างรุนแรง พบเลือดออกในถุงหุ้มหัวใจปริมาณ 180 ซีซี หัวใจบนขวาฉีกขาด เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และผู้ป่วยมีกล่ามเนื้อหัวใจตายชนิดเก่าที่หัวใจห้องล่างซ้าย และเส้นเลือดหัวใจตับทั้ง 3 เส้นทั้งหน้าซ้าย หน้าขวาและหลังซ้าย
"สรุปสาเหตุการเสียชีวิต ผู้ป่วยมีเลือดออกที่ถุงหุ้มหัวใจจากหัวใจห้องบนขวาฉีกขาดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่าเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตรายนี้ไม่ได้รับประทานยาไมเกรนตัวเดียวกับที่เป็นข่าว" นาวาอากาศตรี นพ.อรรถสิทธิ์ กล่าว
@ ทั่วโลกป่วย 434,852 ราย สะสม 175.61 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 434,852 ราย รวม 175,616,534 ราย อาการหนัก 84,738 ราย หายป่วย 159,152,216 ราย เสียชีวิต 3,788,650 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 14,880 ราย รวม 34,275,783 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 424 ราย รวม 614,007 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 91,266 ราย รวม 29,273,338 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3,402 ราย รวม 363,097 ราย บราซิล พบเพิ่ม 89,802 ราย รวม 17,215,159 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,344 ราย รวม 482,135 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 79 ของโลก
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/