ป่วยใหม่ 1,470 ราย รวมสะสม 48,113 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย หายดี 477 ราย และมีคนรักษาใน รพ. 18,148 ราย ส่วนทั่วโลกป่วยสะสม 144.43 ล้านราย
---------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,470 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,470 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,370 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 100 ราย และไม่มีผู้ติดเชื้อเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 48,113 ราย หายป่วยเพิ่ม 477 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 18,148 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 117 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 111 เป็นหญิง อายุ 24 มีอาชีพค้าขาย อาศัยอยู่จังหวัดพัทลุง มีโรคประจำตัวเป็นโรคอ้วน มีประวัติไปสถานบันเทิง ซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิดรายก่อนหน้า ก่อนจะไปตรวจหาเชื้อ และมีอาการมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปอดอักเสบ และหายใจเหนื่อย ต่อมาออกซิเจนในเลือดต่ำลง และมีภาวะปอดอักเสบรุนแรง กระทั่งเสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตรายที่ 112 เป็นหญิง อายุ 68 ปี มีอาชีพดูแลเด็ก อาศัยอยู่จังหวัดสระบุรี มีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้ และมีประวัติสัมผัสเสี่ยงกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า จากนั้นเริ่มมีอาการไข้ ไอ ก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มีอาการหายใจลำบาก มีเสมหะ ใส่ท่อช่วยหายใจ ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้เสียชีวิตรายที่ 113 เป็นชาย อายุ 83 ปี อาศัยอยู่ กทม. มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง เริ่มมีไข้สูง ไอแห้ง มีน้ำมูก และอ่อนเพลีย เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2564 จากนั้นเข้าตรวจคัดกรองเชิงรุก พบผลเป็นบวก จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2564 ก่อนจะมีอาการเหนื่อยมาก ใส่ท่อช่วยหายใจ อาการทรุดลง และเสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตรายที่ 114 เป็นหญิง อายุ 80 ปี อาศัยอยู่จังหวัดนครปฐม มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน มีประวัติพบญาติเดินทางมาจาก กทม. มาเยี่ยมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก่อนจะเริ่มมีอาการอาเจียนเป็นเลือด ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาล แต่อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตรายที่ 115 เป็นชาย อายุ 45 ปี อาศัยอยู่ กทม. มีอาชีพพนักงานขับรถ และมีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง โดยมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า ต่อมาเริ่มมีไข้ ไอ เหนื่อย มีเสมหะ หนาวสั่น และปอดอักเสบ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ กระทั่งเสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตรายที่ 116 เป็นชาย อายุ 59 ปี อาศัยอยู่ กทม. มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า ก่อนจะเริ่มมีอาการไอ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2564 ต่อมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ด้วยอาการหายใจลำบาก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในเวลาเดียวกัน
ผู้เสียชีวิตรายที่ 117 เป็นชายไทย อายุ 86 ปี มีอาชีพรับจ้าง อาศัยอยู่ในกทม. มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ และมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า ต่อมามีอาการไอ อ่อนเพลีย และเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการเหนื่อยหอบ ไข้สูง และมีค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ แต่อาการแย่ลง และเสียชีวิต
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ 1,470 ราย เป็นผู้ติดเชื้อตามพื้นที่ปัจจัยเสี่ยง แบ่งเป็น สถานบันเทิง 101 ราย แบ่งเป็น กทม. 42 ราย ปริมณฑล 13 ราย และจังหวัดอื่นๆ 46 ราย ตลาด ชุมชน ขนส่ง 92 ราย แบ่งเป็น กทม. 46 ราย ปริมณฑล 12 ราย และจังหวัดอื่นๆ 34 ราย และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ 1,277 ราย ประกอบด้วย กทม. 358 ราย ปริมณฑล 214 ราย และจังหวัดอื่นๆ 705 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 จังหวัดสะสมสูงสุด ระหว่างวันที่ 1-22 เม.ย.2564 ประกอบด้วย กทม. 4,775 ราย เชียงใหม่ 2,597 ราย ชลบุรี 1,540 ราย นนทบุรี 911 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 897 ราย สมุทรปราการ 826 ราย สมุทรสาคร 496 ราย นราธิวาส 441 ราย ปทุมธานี 369 ราย และสงขลา 348 ราย
ทั้งนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 141,670 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 10,560 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 864,840 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 746,617 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 118,223 ราย
@ กรมควบคุมโรคเผยอัตราเสียชีวิตระลอกใหม่ ยังน้อยอยู่ที่ 0.10 ปัจจัยเสี่ยงยังเป็นผู้สูงอายุ-มีโรคประจำตัว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก ได้นำข้อมูลจากกรมควบคุมโรค วิเคราะห์อัตราการเสียชีวิต เปรียบเทียบข้อมูลลักษณะของผู้ป่วย ทั้ง 3 ระลอก พบว่า ในระลอกแรก มีอัตราเสียชีวิต 0.82 ซึ่งสูงกว่าการระบาดในระลอกที่ 2 อัตราเสียชีวิต 0.13 และการระบาดในระลอกที่ 3 อัตราเสียชีวิต 0.10 อย่างไรก็ตามจะเห็นอัตราผู้ป่วยในระลอกที่ 3 เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก เพียงเดือนเดียว มีผู้ป่วยถึง 17,780 ราย
ส่วนปัจจัยเสี่ยงการแพร่ระบาดที่พบมากทั้ง 3 ระลอกนั้น จะอยู่ในสถานบันเทิง บ่อน สนามมวย, แหล่งชุมชน ตลาด และการติดเชื้อจากคนในครอบครัว
ขณะที่อายุของผู้ป่วยที่เสียชีวิตในระลอกใหม่นี้ พบมีค่ามัธยฐานของอายุ อยู่ที่ 56 ปี และอายุโดยส่วนใหญ่ ยังอยู่ที่ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ถึงแม้ในการรายงานผู้เสียชีวิตในปัจจุบันจะพบว่ามีผู้มีอายุน้อยเสียชีวิตอยู่ แต่มีเปอร์เซ็นต์ไม่มาก ซึ่งไม่เหมือนในช่วงการระบาดระลอกแรกที่มีผู้มีอายุ 40-59 ปี เสียชีวิตมากที่สุด 32 ราย คิดเป็น 48 %
สำหรับความเสี่ยงเสียชีวิตของผู้มีโรคประจำตัวนั้น พบว่าการมีโรคประจำตัวเป็นความเสี่ยงของทุกระลอกการระบาด แต่ในระลอกใหม่นี้มีอัตราสูงที่สุด 93% โดยพบโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคปอด และโรคอื่นๆ เช่น ไทรอยด์ ไขมันสูง ไตวาย และติดเตียง
@ สัปดาห์นี้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ใน 3 จังหวัด รวมติดเชื้อ 79 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสัปดาห์นี้ว่า จังหวัดนครราชสีมา มี 5 คลัสเตอร์ ติดเชื้อรวม 71 ราย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี 1 คลัสเตอร์ ติดเชื้อรวม 5 ราย และจังหวัดอ่างทอง มี 1 คลัสเตอร์ ติดเชื้อรวม 3 ราย
โดยในคลัสเตอร์ของจังหวัดนครราชสีมา พบว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อแรกเป็นกลุ่มเพื่อนที่ไปเที่ยวเยาวราช ทำให้เกิดคลัสเตอร์ตามมาอีก 7 คลัสเตอร์ ได้แก่ โรงเหล้ามิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา, ร้านหมูกระทะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา, ร้านคาราโอเกะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา, ผับ บาร์ อ.เมืองชัยภูมิ, งานเลี้ยงทหารอากาศ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และครอบครัวบุคคลากรการแพทย์ อ.เมืองชัยภูมิ
@ ทั่วโลกป่วย 880,977 ราย สะสม 144.43 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 880,977 ราย รวม 144,431,869 ราย อาการหนัก 109,845 ราย หายป่วย 122,606,237 ราย เสียชีวิต 3,071,625 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 65,057 ราย รวม 32,602,051 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 876 ราย รวม 583,330 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 315,802 ราย รวม 15,924,806 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,102 ราย รวม 184,672 ราย บราซิล พบเพิ่ม 71,910 ราย รวม 14,122,795 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3,157 ราย รวม 381,687 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 105 ของโลก
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage