คุก18 ด. อดีตนายกฯไชยวาน อุดรฯ ทุจริตทำเงินขาดบัญชี พวก1ราย โดนหนัก 240 ปี 732 เดือน

picnewsccs63003 2 64

ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'อุทัย แสนแก้ว' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลไชยวาน อุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริตเป็นเหตุให้เงินขาดบัญชี ปี 48 - 50 ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษ จำคุก 18 เดือน - พวก 1 ราย โดนหนัก 240 ปี 732 เดือน แต่ติดจริง 50 ปี

........................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายอุทัย แสนแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลไชยวาน อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี กับพวก 4 ราย คือ นางสิริลักษณ์ ใจทน นางสมฤดี ทาสะโก นางพิสินี สุขพอดี นายญาณวุฒิ สร้างคำ ปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริตเป็นเหตุให้เงินขาดบัญชีปีงบประมาณ พ.ศ.2548 - 2550

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาว่า นางสิริลักษณ์ ใจทน จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 147, 157 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ความผิดตามมาตรา 147 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 120 กระทง ความผิดตามมาตรา 157 จำคุกกระทงละ 1 ปี รวม 2 กระทง ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก จำนวน 240 ปี 732 เดือน ทั้งนี้ เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี นับโทษ จำคุก จำเลยที่ 1 ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 228/2553 ของ ศาลจังหวัดอุดรธานี

นางสมฤดี ทาสะโก จำเลยที่ 2 นางพิสินี สุขพอดี จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 157 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 1 ปี รวม 2 กระทง จำเลยที่ 2 และ 3 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 2 กระทง เป็นจำคุกคนละ 12 เดือน

นายญาณวุฒิ สร้างคำ จำเลยที่ 4 นายอุทัย แสนแก้ว จำเลยที่ 5 มีความผิดตามมาตรา 157 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 1 ปี รวม 3 กระทง จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 5 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุกคนละ 18 เดือน

สำหรับคดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ต่อมาสำนักข่าวอิศรา ได้รับการติดต่อจากญาติของ นายอุทัย แสนแก้ว จำเลยที่ 5 ยืนยันว่า ขณะนี้ นายอุทัย ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เพราะเป็นการพิพากษาโทษของศาลชั้นต้นเท่านั้น และนายอุทัย ก็ประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีก นอกจากนี้ นายอุทัย ยังจะสมัครรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลไชยวาน เพื่ออาสารับใช้พี่น้องประชาชนต่อด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ไปปรึกษากับทาง กกต.แล้ว และได้รับการยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติสามารถลงสมัครได้

picnewsccs3 2 64