เป็นทรัพย์สินแผ่นดิน! ศาลจังหวัดนราธิวาสชี้เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิยึดบัญชีเงินฝากเทศบาลตำบลสุคิริน แม้ทำสัญญาประนีประนอมหนี้กับ หจก.ธนาการโยธา ปมไม่จ่ายค่าจ้างสร้างถนน 3 งวดสุดท้าย 5.7 ล้าน เผย ‘สมควร เกตุแก้ว’ อดีตนายกเทศมนตรีฯคนเดิมทำสัญญาแสวงหาประโยชน์-ต้องห้ามชัดแจ้ง ทำให้เป็นโมฆะ แต่เลยเวลามานาน ไม่มีอำนาจเพิกถอนได้
.................................
จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดทางวินัย และทางอาญา แก่นายสมควร เกตุแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส คดีถูกกล่าวหาว่า จ้างเอกชนก่อสร้างถนนวงเงิน แบ่งจ่าย 4 งวด รวมเป็นเงินกว่า 6.8 ล้านบาท แต่เอกชนรายดังกล่าวไม่ได้เข้าไปทำงานจริง โดยระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2561 หจก.ธนาการโยธา ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้เทศบาลตำบลสุคิรินจ่ายค่าจ้าง 3 งวดสุดท้ายเป็นเงิน 5,716,216 บาท อย่างไรก็ดีนายสมควร ได้ทำสัญญาประนีประนอมหนี้ดังกล่าว โดยศาลแพ่งนราธิวาสมีคำพิพากษาให้ยอมความ เนื่องจากเห็นว่าไม่ขัดต่อกฎหมายนั้น (อ่านประกอบ : ‘นายกฯสุคิริน’ชิงประนอมหนี้เอกชนก่อน ป.ป.ช.ฟันคดีสร้างถนน-อัยการแก้เกมร้องศาลเบรกจ่าย)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีนี้ว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2564 ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้อ่านคำพิพากษาความแพ่ง คดีที่ หจก.ธนาการโยธา เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องเทศบาลตำบลสุคิริน เป็นจำเลย กรณีที่นายสมควร เกตุแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสุคิริน ทำสัญญาประนีประนอมหนี้ค่าจ้างดังกล่าว แต่ยังไม่มีการชำระหนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.พ 2562 โจทก์ยื่นคำร้องอีกครั้งขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเงินฝากประจำ ของธนาคารออมสิน สาขาสุคิริน ชื่อบัญชีเทศบาลตำบลสุคิริน อย่างไรก็ดีเจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งว่าเงินดังกล่าวเป็นงบประมาณแผ่นดิน ไม่อยู่ในการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 301 (5) ให้งดการบังคับคดี และให้โจทก์ใช้สิทธิทางศาล โจทก์เห็นว่าเงินในบัญชีเงินฝากดังกล่าวไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน ขอให้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดนราธิวาสดำเนินการอายัดบัญชีจำเลย
ทางไต่สวนได้ความว่า บัญชีเงินฝากดังกล่าวในชื่อเทศบาลตำบลสุคิริน เป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไปที่เหลือจ่ายแล้วเก็บสะสมไว้ และจะเบิกจ่ายได้เฉพาะรายจ่ายตามแผนงานตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 เท่านั้น
ศาลจังหวัดนราธิวาส เห็นว่า เงินในบัญชีดังกล่าว ระบุชื่อผู้ฝากคือเทศบาลตำบลสุคิริน โดยเป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน แม้จำเลย (เทศบาลตำบลสุคิริน) เป็นลูกหนี้ แต่เมื่อจำเลยเป็นหน่วยงานของรัฐ ทรัพย์สินของจำเลยจึงถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1307 ห้ามมิให้ยึดทรัพย์สินของแผ่นดิน ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยึดอายัดบัญชีเงินฝากอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้องของโจทก์
ส่วนประเด็นที่จำเลยขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนนิติกรรมสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยนั้น เห็นว่า แม้จำเลยจะอ้างว่าสัญญาก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก อันเป็นมูลเหตุแห่งการทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ไม่ได้เกิดจากเจตนาที่แท้จริงของเทศบาลตำบลสุคิริน เนื่องจากการก่อสร้างถนนไม่เป็นไปตามแบบที่กำหนดและคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างไม่ลงนามตรวจรับงานจ้าง จำเลยจึงไม่เบิกจ่ายให้โจทก์ แต่นายสมควร อาศัยอำนาจหน้าที่ของตนแสวงหาผลประโยชน์ ทำสัญญาที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย ซึ่งเป็นโมฆะ ทำให้เทศบาลตำบลสุคิรินได้รับความเสียหายก็ตาม แต่เนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว และล่วงเลยเวลาในการอุทธรณ์มาแล้ว ศาลชั้นต้นจึงไม่มีอำนาจในการเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ จึงให้ยกคำร้องของจำเลยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีการดำเนินคดีอาญากับนายสมควร เกตุแก้ว อดีตนายกเทศมนตรีตำบลสุคิรินนั้น เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาจำคุก นายสมควร 3 ปี ไม่รอลงอาญาไปแล้ว (อ่านประกอบ : ศาลอาญาคดีทุจริตฯสั่งคุกจริง 3 ปี‘อดีตนายกฯสุคิริน’อ้างชื่อเอกชนสร้างถนน 6.8 ล.)
อ่านประกอบ :
‘นายกฯสุคิริน’ชิงประนอมหนี้เอกชนก่อน ป.ป.ช.ฟันคดีสร้างถนน-อัยการแก้เกมร้องศาลเบรกจ่าย
ป.ป.ช.ฟันนายกเทศมนตรีสุคิริน ยืมชื่อเอกชนรับงานสร้างถนน 6.8 ล.-เจ้าตัวยันบริสุทธิ์
ป.ป.ช.สอบ‘บิ๊ก’เทศบาลสุคีรินใช้เอกชนบังหน้าคว้างานสร้างถนน 6.8 ล.ให้หัวคิว 10%
ปัดให้หัวคิว! นายกฯสุคิรินแจงปมสร้างถนน 6.9 ล.เสร็จแล้ว-คนละเรื่องที่ ป.ป.ช. สอบ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage