ทรัพย์สิน 2.4 พันล้าน ‘พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ’ ถอยรถใหม่ จากัวร์-เบนท์ลีย์ 2 คัน 5 ล้าน แจ้งชื่อคู่สมรส ‘จรรยา สว่างจิตร’ เจ้าของธุรกิจอสังหาฯ-ขายเหล็กยักษ์ใหญ่ ‘พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล’ ซื้อพระเครื่องเบญจภาคีต่อจากสามี 15 ล้าน ถือครองเครื่องประดับ Van cleef & Arpels 230 ล้าน
.............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายราย รายชื่อน่าสนใจ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรณีดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ครบ 3 ปี เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2563
พล.ท.พีระพงษ์ แจ้งมีทรัพย์สิน 65,728,064 บาท ได้แก่ เงินฝาก 1,322,084 บาท เงินลงทุน 3,914,350 บาท ที่ดิน 13.8 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 11,480,000 บาท ยานพาหนะ 18,180,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 9,548,128 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 7,483,500 บาท มีหนี้สิน 1,030,206 บาท (เงินเบิกเกินบัญชี)
แจ้งมีรายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง 36,343,556 บาท แบ่งเป็นบำนาญจากกระทรวงกลาโหม 1,967,249 บาท เงินเดือน กสทช. 9,684,000 บาท ให้เช่าที่ดิน โฉนดเลขที่ 38 ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง 20,000 บาท ขายพระเครื่องชุดเบญจภาคี 15 ล้านบาท ขายพระเครื่องสมเด็จบางขุนพรหมพร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท 5 ล้านบาท ขายปืน Beretta รุ่น 21A จำนวน 1 กระบอก 48,000 บาท ขายนาฬิกา Patex Philippe รุ่น Nautilus 5712R มูลค่า 1,350,000 บาท ขายรถยนต์ Toyota Altis 1 คัน 1.5 แสนบาท ขายกองทุน RMF 3,124,307 บาท
มีรายจ่ายรวม 13,888380 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 4,320,000 บาท ค่าอุปการะบิดามารดา 7.2 แสนบาท ค่าเลี้ยงดูบุตร 7.2 แสนบาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 4,355,780 บาท ซื้อกองทุนรวม 3.2 ล้านบาท เงินบริจาค 572,600 บาท
ส่วนนางจรรยา สว่างจิตร (สกุลเดิม ตรีพิพัฒน์กุล) คู่สมรส มีทรัพย์สิน 2,432,238,430 บาท ได้ก่ เงินฝาก 68,660,285 บาท เงินลงทุน 1,174,858,065 บาท ที่ดิน 65 แปลง 408,299,250 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 9 หลัง 194,700,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 13,971,829 บาท ทรัพย์สินอื่น 571,749,000 บาท มีหนี้สิน 91,632,505 บาท
มีรายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง 12,928,200 บาท แบ่งเป็น เงินเดือน 10,032,000 บาท ค่าเช่าที่ดิน 2,896,200 บาท มีรายจ่ายรวม 24,610,320 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3.6 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 4,752,000 บาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1,258,320 บาท ซื้อพระเครื่องชุดเบญจภาคี 15 ล้านบาท
รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 2,497,966,494 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 92,662,712 บาท
ทรัพย์สินที่น่าสนใจ พล.ท.พีระพงษ์ แจ้งถือครองยานพาหนะ 8 คัน โดยมี 2 คันเพิ่งได้มาระหว่างเดือน ก.พ.-ก.ค. 2563 ได้แก่ รถยนต์จากัวร์ XK150 มูลค่า 5 ล้านบาท และรถยนต์ Bentley มูลค่า 2 ล้านบาท
ขณะที่ นางจรรยา สว่างจิตร คู่สมรส ยังแจ้งถือครองพระเครื่องชุดเบญจภาคี รวม 5 องค์ ได้มาเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2562 มูลค่า 15 ล้านบาท และถือครองเครื่องประดับยี่ห้อ Van clef & Arpels มูลค่ารวมกว่า 230 ล้านบาท แบ่งเป็น แหวน 1 วง มูลค่า 8,520,000 บาท สร้อยคอ 3 เส้น มูลค่า 167,750,000 บาท และกำไลข้อมือ 1 อัน มูลค่า 54,450,000 บาท รวมถึงมีเครื่องประดับประเภทต่างหู กำไล สร้อยคอ เข็มกลัด อีก 16 รายการ รวมมูลค่ากว่า 104,550,000 บาท
นางจรรยา ยังแจ้งเงินลงทุนรวมกว่า 1.1 พันล้านบาท โดยมูลค่าในส่วนนี้เกือบทั้งหมดมาจากการถือครองหุ้นบริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,090,149,995 หุ้น มูลค่า 1,090,149,995 บาท ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในหุ้นบริษัทลูกของ บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ฯ และกองทุนธนาคารต่าง ๆ
เว็บไซต์ http://www.poverseas.com/ ระบุว่า ธุรกิจเครือ ‘พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล’ เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2520 ตั้งอยู่ที่ย่านดาวคะนองในชื่อ บริษัท สงวนเจริญเม็ททัล จำกัด ธุรกิจในช่วงแรกคือการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและเหล็กชนิดต่างๆ
ต่อมาได้ขยายกิจการอีกหลายบริษัท สินค้าหลักที่เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายคือ เหล็กเส้นก่อสร้าง เหล็กรูปพรรณทุกชนิด ปูนซิเมนต์ และคอนกรีตผสมเสร็จ ในเครือ พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) และประสบความสำเร็จในการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โครงการก่อสร้างต่างๆ ใช้ พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล เป็นผู้ซัพพลายเหล็ก (อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.poverseas.com/about.html#)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2564 พบว่า นางจรรยา สว่างจิตร เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 13 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่อย่างน้อย 10 แห่ง ได้แก่
บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2551 ทุนปัจจุบัน 1.5 พันล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจ ขายส่ง ขายปลีก วัสดุก่อสร้าง ตั้งอยู่ที่ 99/1 ซ.พหลโยธิน 40 ถ.พหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม.
ปรากฏชื่อ พล.อ.วิโรจน์ แสงสนิท (อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด อดีต รมช.คมนาคม รัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน และอดีต รมช.กลาโหม รัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา) นางจรรยา สว่างจิตร นายธงชัย ตรีพิพัฒน์กุล นางสมศรี เจริญศิริวัฒน์ และ น.ส.รัตนา ตรีพิพัฒน์กุล เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2562 มีรายได้รวม 16,726,301,656 บาท รายจ่ายรวม 16,260,603,402 บาท เสียภาษีเงินได้ 53,493,952 บาท กำไรสุทธิ 118,369,660 บาท
ส่วนที่เหลือเป็นบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท พี.โอ.ซี.ฟินิกซ์ วิลล่า จำกัด ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พี.โอ.ซี. ฟีนิกซ์ โกลด์ กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พี.โอ.ซี.คอนกรีต จำกัด ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พี.โอ.ซี. ฟีนิกซ์ โกลด์ แลนด์ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ทำธุรกิจสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการแข่งขันกีฬา
บริษัท สงวน ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจขายส่งวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ที่มิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น บริษัท พี.โอ.ซี. แผ่นดินทอง จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พี.โอ.ซี. ฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ และบริษัท พี.โอ.ซี.ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ พล.ท.พีระพงษ์ ดำรงตำแหน่ง กรรมการ กสทช. มาตั้งแต่ปี 2558-ปัจจุบัน ส่วนนางจรรยา สว่างจิตร ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นางจรรจา สว่างจิตร เป็นอดีตภรรยา พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร อดีตนายทหารกลุ่มยังเติร์ก ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว (อ่านประกอบ : ขุมธุรกิจ 4,000 ล้าน“จรรยา สว่างจิตร”คอนเนกชั่นลึกอดีตบิ๊กสีเขียว)
เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานอ้างว่า พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ และนางจรรยา สว่างจิตร พบรักกันเมื่อครั้งเรียนหลักสูตรในวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 51 (อ้างอิงข้อมูลจาก : https://mgronline.com/celebonline/detail/9590000070794)
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.ท.พีระพงษ์ และนางจรรจา จาก https://mgronline.com/
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage