‘รมว.คมนาคม’ เผยยังไม่ได้รับหนังสือข้อเสนอแนะ 'ป.ป.ช.' เบรก ‘ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ’ ยันเดินหน้าก่อสร้างต่อ ควบคู่ ‘East Expansion-West Expansion’ พร้อมชง 'บิ๊กตู่' รับทราบ เผย ‘สภาพัฒน์’ ไม่คัดค้าน แต่ให้ ‘ทอท.’ เชิญ ‘ICAO-IATA’ มาช่วย 'Re-visit' แผนแม่บทพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ
.....................
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงินลงทุน 4.2 หมื่นล้านบาท และเห็นว่าบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ควรชะลอการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (อ่านประกอบ : โชว์หนังสือ! ป.ป.ช.เบรก 'ทอท.' สร้าง ‘อาคารผู้โดยสารทิศเหนือ’ สุวรรณภูมิ)
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแล ทอท. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ขณะนี้กระทรวงฯ ยังไม่ได้รับหนังสือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตของ ป.ป.ช. กรณีก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) แต่อย่างใด และหากข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.มาถึง ก็จะตอบความเห็นกลับไป
นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า ทอท.จะเดินหน้าก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ ควบคู่กับการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) และส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันตก (West Expansion) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2563
นอกจากนี้ คณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ด สศช.) ซึ่งเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย ไม่ได้คัดค้านการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ และมีความเห็นว่า ขอให้ ทอท. เชิญองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ด้วย มาช่วยทำการ Re-visit แผนแม่บท (Master Plan) พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน
“สภาพัฒน์บอกว่า ถ้าทำอย่างนี้ไม่มีปัญหา แต่เขาฝากคอนเมนต์มาว่า ขอให้ไป Re-visit มาสเตอร์แพลน เพราะมาสเตอร์แพลนที่เราพูดถึงกันอยู่นี้เป็นเรื่องเก่า อันนั้น ICAO ทำฉบับที่ 1 แต่ปัจจุบันมาถึงฉบับที่ 4 แล้ว ซึ่ง IATA เป็นคนทำ สภาพัฒน์เลยบอกว่า ขอให้ทั้ง ICAO และ IATA ช่วยมา Re-visit ได้หรือไม่ คือ มาทบทวน ไม่ใช่การศึกษาใหม่ เพราะเรามีการศึกษาอยู่แล้ว เพียงแต่อัพเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันที่สุด” นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยาม อธิบายถึงเหตุผลที่ต้องก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ ว่า ปัจจุบันอาคารผู้โดยสารหลัก สนามบินสุวรรณภูมิ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 45 ล้านคนต่อปี แต่พบว่าปัจจุบันมีผู้โดยสารเข้ามาใช้สนามบินมากถึง 60 ล้านคนต่อปี ทำให้ ทอท.ต้องก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1) ที่อยู่ด้านทิศใต้ ซึ่งเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2565 จะทำให้สนามบินรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปีพอดี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ ทอท.ได้เริ่มก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 แล้ว ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2566 นั้น จะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิ มีศักยภาพรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มเป็น 90 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากปัจจุบันที่รองรับได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง หรือเท่ากับปริมาณผู้โดยสาร 90 ล้านคนต่อปี ดังนั้น ทอท.จึงมีแผนก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
ประกอบด้วย ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันออก (East Expansion) ซึ่งรองรับได้ 15 ล้านคนต่อปี ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันตก (West Expansion) ซึ่งรองรับได้ 15 ล้านคนต่อปี และส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทิศเหนือ (North Expansion) รองรับได้ 30 ล้านคนต่อปี หากสร้างทั้งหมดจะไปเสร็จในปี 2569 ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้ว และเห็นว่าควรสร้างพร้อมกันทั้ง 3 โครงการเลย เพื่อให้รองรับผู้โดยสารเป็น 120 ล้านคนต่อปี
“สภาพัฒน์ให้ความเห็นว่า ทำไมไม่สร้างหมดเลย เพื่อให้รองได้ 120 ล้านคนต่อปี ในขณะที่ตามมาสเตอร์แพลน ระดับ 4 ก็บอกว่าจะมีผู้โดยสารเข้ามา 120 ล้านคนต่อปี สุดท้ายประชุมก็ตกลงกันว่า ให้ทำทั้ง 3 โครงการเลย โดยให้เริ่มพร้อมกัน อะไรไปได้ก่อนไป ซึ่งในส่วนของ East Expansion และ West Expansion จะใช้เวลาสร้าง 29 เดือน ส่วน North Expansion จะใช้เวลา 24 เดือน หรือแล้วเสร็จในปี 2569” นายศักดิ์สยามกล่าว
เมื่อถามว่า ป.ป.ช. เสนอให้ ทอท. ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ แทนการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทิศเหนือ เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ ทอท. ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว คือ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1) ที่อยู่ด้านทิศใต้ ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2565
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า กระทรวงฯจะเสนอรายงานมติของที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบต่อไป พร้อมทั้งจะชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือดังกล่าว ให้กับทางป.ป.ช. และครม.ได้รับทราบด้วย
“ความเห็นของ ป.ป.ช.นั้น สิ่งที่เป็นความเห็น เราก็รับมา แล้วเราจะตอบความเห็นของ ป.ป.ช. ไปอย่างที่เรียนไป ว่า เราได้ประชุมกับสภาพัฒน์ ทอท. สนข. และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีรองนายกฯอนุทิน เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าจะต้องสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มเพื่อรองรับผู้โดยสาร 120 ล้านคนต่อปี และผมเองพูดมาตลอด การสร้างอะไรก็ตาม ทำวันนี้ ไม่ใช่ว่าจะเสร็จวันนี้ เพราะกว่าจะผ่านสภาพัฒน์แล้วกลับมาต้องใช้เวลาอีก 3-4 เดือน” นายศักดิ์สยามระบุ
นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวว่า การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายทั้ง 3 โครงการ ซึ่งมีวงเงินลงทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาทนั้น จะทำให้ภาพรวมการลงทุนของประเทศดีขึ้น เพราะปีงบ 2565 งบลงทุนลดลง 2.9 หมื่นล้านบาทเมื่อเทียบกับปีงบ 2564 และทำให้ไทยเป็นฮับการบินในภูมิภาค
“ที่เราจะทำไปทั้งหมด เรามีเหตุผลแบบนี้ และเราก็ไม่ได้ละทิ้งอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและด้านทิศตะวันตก เพียงแต่เราจะทำให้มันมีศักยภาพที่เพียงพอในการทำให้เราเป็นฮับอาเซียน” นายศักดิ์สยามกล่าว
อ่านประกอบ :
โชว์หนังสือ! ป.ป.ช.เบรก 'ทอท.' สร้าง ‘อาคารผู้โดยสารทิศเหนือ’ สุวรรณภูมิ
ป.ป.ช.เบรกสร้างอาคารผู้โดยสารด้านเหนือสุวรรณภูมิ 4.2 หมื่นล.! ให้’ทอท.’ ยึดมติ ครม.ปี 53
บอร์ดทอท.ไฟเขียว สร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ สนามบินสุวรรณภูมิ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage