ปธ.วิปรัฐบาล ยันใช้เสียงข้างมาโหวตความเห็นในที่ประชุม กมธ.แก้ รธน.เอาฉบับ รบ.เป็นหลัก คาด ม.ค. 64 เสร็จทั้งหมด – ‘พรเพชร’ หนุน ส.ส.ร.มาจากเลือกตั้ง-ชี้คนรุ่นใหม่ต้องฟังผู้ทรงคุณวุฒิด้วย เผยตัวแทน ส.ว.ส่งเข้า กก.สมานฉันท์เหลือแค่รายเดียว-ขอผู้เห็นต่างทำความเข้าใจมากขึ้น
..............................
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2563 ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านกล่าวหาว่า กมธ.ซีกวุฒิสภา และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ใช้เสียงข้างมากในการลงมติ เพื่อปิดกั้นฝ่ายค้านว่า กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐสภารับหลักการมาแล้ว และเห็นชอบให้ใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับรัฐบาลเป็นหลักในการพิจารณา โดยการปรับแก้รายละเอียดต่าง ๆ กมธ.จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ความเห็นที่ไม่ตรงกันต้องพูดคุยกัน หรือลงมติชี้ขาด อยู่ที่ กมธ.แต่ละคนจะพิจารณาด้วยเหตุและผล โดยไม่เลือกปฏิบัติ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปบางเรื่อง และน่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมดในเดือน ม.ค. 2564
@‘พรเพชร’หนุน ส.ส.ร.มาจากเลือกตั้ง-ชี้คนรุ่นใหม่ต้องฟังผู้ทรงคุณวุฒิด้วย
วันเดียวกันที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่า เป็นไปตามการดำเนินการของ กมธ. ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่สนใจกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทราบว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็น ส่วนกระบวนการคงเป็นไปตามการพิจารณากฎหมายปกติ เร่งรัดมากไม่ได้ เพราะบทบัญญัติบางอย่างไม่สามารถลอกของเก่าได้ อาจเกิดการขัดกันของกฎหมาย ต้องพิจารณาให้มาตราต่าง ๆ สอดคล้องกัน
เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของฝ่ายต่าง ๆ ที่ต้องการให้สภายกร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดนั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ส.ส.ร. ควรมาจากการเลือกตั้ง แต่ควรรับฟังความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการเมือง ด้านรัฐธรรมนูญ และด้านการปกครองด้วย รวมถึงควรให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม ที่ผ่านมาไม่เคยพบว่าเสียงผู้ทรงคุณวุฒิไม่กี่ราย จะมีบทบาททำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ขออย่ามองในแง่ร้าย เพราะผลสรุปสุดท้ายต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก
@เผยตัวแทน ส.ว.ส่งเข้า กก.สมานฉันท์เหลือแค่รายเดียว-ขอผู้เห็นต่างทำความเข้าใจมากขึ้น
นายพรเพชร กล่าวถึงกรณีการส่งตัวแทนร่วมเป็นคณะกรรมการสมาฉันท์ในสัดส่วนของวุฒิสภา 2 รายว่า มีการทาบทามบุคคลที่เหมาะสมแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อนำรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา มีคนถอนตัวไปจึงเหลือเพียงรายเดียว โดยจะคัดเลือกให้เสร็จภายในปีนี้ เพื่อส่งรายชื่อให้กับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และต้องพูดคุยกันให้หนักแน่นมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการถอนตัวอีก ที่ผ่านมามีการตั้งสเปกบุคคลมาเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ค่อนข้างสูง ไม่เอาคนที่เคยร่างรัฐธรรมนูญมาแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีผู้เห็นต่างยืนยันไม่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า เดี๋ยวคงได้ แต่เบื้องต้นไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการเทียบเชิญ แต่มองว่าต้องทำความเข้าใจกันมากขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องพยายามทำให้ครบองค์ประกอบ คาดว่านายชวน จะพูดคุยกับฝ่ายค้านอีกรอบ
@‘ชวน’ยันไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบ-เสียเปรียบนั่ง กก.สมานฉันท์ฯ
วันเดียวกันที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้รายชื่อคณะกรรมการสมานฉันท์ทั้งหมดก่อนสิ้นปี ส่วนที่ฝ่ายค้าน และกลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่เข้าร่วมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเดิม เพราะฝ่ายค้านแสดงเจตจำนงที่จะไม่เข้าร่วมแต่แรก ตนเคยไปเจรจาอยากให้เข้าร่วม ขณะนั้นมีแนวโน้มตอบรับ แต่ยังขอดูท่าทีก่อน โดยผู้นำฝ่ายค้านระบุว่า โครงสร้างสัดส่วนแต่ละฝ่ายไม่สมดุล และได้ชี้แจงไปแล้วว่า เรื่องสัดส่วนไม่ได้นำมาลงมติ แต่เป็นการระดมความคิดเห็นความร่วมมือของแต่ละฝ่าย ไม่ใช่ว่าฝ่ายใดเสียเปรียบได้เปรียบ และจะเสนอแนวคิดนี้เข้าไปในโครงสร้างคณะกรรมการสมานฉันท์ด้วย
นายชวน กล่าวด้วยว่า ไม่ว่าคณะกรรมการสมานฉันท์จะมีเท่าไหร่ จะเดินหน้าต่อ เมื่อได้รายชื่อคณะกรรมการฯครบแล้ว จึงนัดประชุม โดยตนจะเข้าประชุมในนัดแรกเพื่อรับฟังความคิดเห็นด้วย
ส่วนกรณีการนัดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายชวน กล่าวว่า ยังไม่มีการนัดประชุม แต่บรรจุอยู่ในระเบียบวาระแล้ว ต้องรอว่ามีวาระอื่นที่สำคัญก่อนหรือไม่ โดยในเดือน ธ.ค. 2563 จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งสุดท้ายของปีในวันที่ 25 ธ.ค. 2563 มีญัตติที่ค้างอยู่กว่า 200 ญัตติ
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายวิรัช จาก https://www.thaipost.net/
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/