ดีเอสไอตามแกะรอย จนท.รัฐได้รับผลประโยชน์นำเงินไปสร้างบ้านในพื้นที่ จ.พังงา มูลค่าหลายล้าน โยงคดี ออก ทป.4 รุกสวนป่าบางขนุน จ.ภูเก็ต นักอนุรักษ์ชี้อยู่นานเกิดปัญหาเพิกเฉยทำผิดระเบียบข้อบังคับมาก
.................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่ดินของวิทยาลัยฯซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้เข้าใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางขนุน จำนวน 142 ไร่เศษ ถูกกลุ่มบุคคลเข้าบุกรุกโดยอ้างสิทธิการครอบครองที่ดินตามเอกสารแบบบันทึกการใช้ที่ดินของบุคคลในพื้นที่ป่าไม้ (แบบ ทป.4) เบื้องต้นคาดว่า มีการออก เอกสาร ทป.4 โดยมิชอบด้วยกฎหมายและทำเป็นขบวนการ
เมื่อวันที่ 24-28 พ.ย. นายเจตนา เหมมุน ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรมและการข่าว กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ได้ลงพื้นที่จังหวัด ภูเก็ตและพังงา เพื่อติดตามสืบสวนบันทึกปากคำพยานเนื่องจากมีพยานปากสำคัญบางรายอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงาและเจ้าหน้าที่บางรายได้รับผลประโยชน์และนำเงินไปสร้างบ้านในพื้นที่จังหวัดพังงา มูลค่าหลายล้านบาท
รายงานระบุว่า ในช่วงวันที่ 26 พ.ย. ได้มีการจัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปแนวเขตวิทยาลัยเทคนิคถลาง ซึ่งในที่ประชุมได้ถกเถียงกันเป็นวงกว้างครอบคลุมทั้งพื้นที่สวนป่าบางขุนนเนื่องจากเอกสาร ทป.4 ถูกนำมาใช้สำรวจและทับซ้อนกับพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง และทั้งเต็มพื้นที่สวนป่าบางขนุนด้วย ก่อนการประชุมนางปัทมา วีระวานิช ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการสำนักงานการอาชีวศึกษา ได้มอบช่อดอกไม้ เป็นการขอบคุณบุคคลที่มีส่วนช่วยในการทวงคืนที่ดินวิทยาลัยเทคนิคถลางประกอบด้วย 1 นายศุภชัย สุกใส ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปราม 4 ภาคใต้ กรมป่าไม้(หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพรใต้)2นายบุญลาภ สุกใส ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขา.กระบี่3นายจำรูญ เกิดดำ ประธานเครือข่ายอนุรักษ์พื้นที่อ่าวไทย-อันดามัน ตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองวิทยาลัยเทคนิคถลางและภาคประชาชน4 นายเจตนา เหมมุน ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์ข้อมูลอาญชญากรรมและการข่าว กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
นายสรกฤษณ สิงห์คำ หัวหน้าสวนป่าบางขนุน กล่าวว่า พื้นที่สวนป่าบางขนุนมีการสำรวจพื้นที่โดยมติของการประชุมของจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในสมัยนั้นมีการสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสำรวจพื้นที่โดยมีภาคเอกชนส่วนหนึ่งภาคราชการส่วนหนึ่งและหนึ่งในจำนวนนั้นก็มีอดีตหัวหน้าสวนป่าบางขนุนร่วมด้วย แต่หลังจากมีการสำรวจข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้นำมาสรุปจนกระทั้งเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมามีการประชุมคณะกรรมการสวนป่าบางขนุน และได้มีการสรุปของที่ประชุมให้เสนอเรื่องนี้ต่อจังหวัดภูเก็ต และในเวลาต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในสมัย นั้น ไม่เห็นชอบตามที่คณะกรรมการเสนอและให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อนในการยกพื้นที่ป่าให้ใครคนใดคนหนึ่ง
ขณะที่นายสุทน ดวงฤทธิ์ ตัวแทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวยืนยันในที่ประชุมอีกว่า การสำรวจพื้นที่ โดยใช้ ทป.4 จำนวน 256 ราย มีผู้ผ่านเกณท์ 15 ราย แต่เมื่อนำภาพถ่ายทางอากาศปี พ.ศ. 2510 มาอ่านแปลแล้ว ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใด ผ่านคุณสมบัติในการเป็นเจ้าของที่ดินในสวนป่าบางขนุนแม้แต่รายเดียว
นายจำรูญ เกิดดำ ประธานเครือข่ายอนุรักษ์พื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน ในฐานะที่ปรึกษาการทวงคืนที่ดินวิทยาลัยเทคนิคถลางภาคประชาชน กล่าวว่า จากการดำเนินการช่วยวิทยาลัยเทคนิคถลางทวงคืนที่ดินให้ ครบถ้วน 142 ไร 1 งาน 12 ตารางวา มองเห็นว่า อิทธิพลที่เกิดขึ้นในการออกเอกสารสิทธิ์ ทป.4 ก็ดี กรณีที่ผู้มีอิทธิพลเข้ามามีส่วนในการบุกรุกพื้นที่วิทยาลัยก็ดี หรือแม้แต่การที่ผู้บุกรุกพื้นที่สวนป่าบางขนุนร้องเรียนหน่วยรัฐต่างๆ ล้วนแต่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ บางคนเข้าไปเกี่ยวข้องมีพลประโยชน์ทับซ้อนกับที่ดินป่าไม้ และเมื่อดูประวัติย้อนหลังบุคคลากร ก็จะเห็นภาพชัดว่าการที่ปล่อยให้ เจ้าหน้าที่ที่มีภูมิรู้น้อยแต่ประสบการณ์มากอยู่ในพื้นที่นานมากเกินไป จะส่งผลต่อการทำผิดระเบียบข้อบังคับของทางราชการมากมาย จึงมีความคิดตกผลึกร่วมกันกับหลายส่วนและมีมติร่วมกันว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแจ้งให้ผู้บริหารสูงสุดของกรมป่าไม้ ได้พิจารณาทบทวน การปรับเปลี่ยนกำลังคนกรมป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ใหม่ ทั้งนี้เนื่องจากเหตุผลสำคัญคือการอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้จำนวนน้อยที่มีความสำคัญกับเกาะภูเก็ตมาก จึงมีบันทึกเสนอไปยังอธิบดีกรมป่าไม้โดยตรง และ ผ่านผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขา กระบี่ เพื่อพิจารณา หรือเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อราชการ
“ผมติดตามพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ป่าไม้บางรายซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานแต่มีศักดิ์แค่เป็นลูกจ้างประจำ มีฐานะทางการเงินดีมาก มีการสร้างบ้านในจังหวัดภูเก็ต สอง หลัง บ้านในจังหวัดพังงา หนึ่ง หลัง บ้านที่จังหวัดราชบุรี หนึ่งหลัง มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท มีรถยนต์อีกหลายคัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวเพิ่มเติมมาอีกว่า การลงพื้นที่ของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีวิทยาลัยเทคนิคถลาง ได้มีมติของคณะที่ประชุมสรุปว่า ตามประกาศกรมป่าไม้ เรื่องกำหนดบริเวณพื้นที่ให้ส่วนราชการหรือองค์กรของรัฐเข้าใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ฉบับที 1 / 2540 อธิบดีกรมป่าไม้โดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยึดเนื้อที่ได้รับอนุญาต จำนวน 142 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวา แต่เนื่องจากแผนที่แนบท้ายประกาศกรมป่าไม้ฉบับดังกล่าวไม่สอดคล้องกับระยะในรายงานการตรวจสอบสภาพป่า ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของการจัดการศึกษาที่ประชุมจึงเห็นควรให้สำนักงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต สรุปเรื่องเสนอกรมป่าไม้เพื่อพิจารณาหาแนวทางในการแก้ไขตามประกาศให้มีพื้นที่ครบตามจำนวนที่วิทยาลัยเทคนิคถลางได้รับอนุญาตต่อไป
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
24-28 พ.ย.ดีเอสไอล็อกคิวสอบรุกสวนป่าบางขนุน ภูเก็ต - ส.อบจ.มือเซ็นบอก‘รู้เท่าไม่ถึงการณ์’
อธิบดี DSI สั่ง จนท.ลุยสอบคดีรุกสวนป่าบางขนุน จ.ภูเก็ต-คนพื้นที่ร้องสแกนทั้งผืน 5 พันไร่
คาดเสียหายเกิน 100 ไร่! อธิบดี DSI สั่งลุยสอบปม ทป.4 รุกที่วิทยาลัยฯถลาง-ป่าบางขนุน
เผยยอด ทป.4 ป่าบางขนุน 310 แปลง -กลุ่มอนุรักษ์ข้องใจศูนย์ดำรงธรรมสอบวิทยาลัยฯถลาง
เปิด ทป.4 เนื้อที่ 8 ไร่ คดีรุกป่าบางขนุน ภูเก็ต - ขรก. นักการเมือง 10 คน ลงชื่อสำรวจ
ปั้นเอกสารทป.4 ฮุบป่าบางขนุน ภูเก็ต! DSI แถลงเบื้องหลังปมรุกที่ดินวิทยาลัยฯถลาง(มีคลิป)