ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินฯ มีคำสั่งไม่รับฎีกาคดีลิขสิทธิ์หนังยอดมนุษย์อุลตร้าแมน ยึดคำพิพากษาตามศาลอุทธรณ์ ชี้ผลงานอุลตร้าแมน 9 เรื่องต้องเป็นลิขสิทธิ์ของ บ.ซึบูราญ่า ปท.ญี่ปุ่น 'สมโพธิ' เจ้าของ บ.ไชโย โปรดักชั่นส์ฯ ห่วง คำตัดสินส่งผลกระทบภาพยนต์หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ , Giant VS jumbo A ขึ้นเป็นมรดกชาติ
---------------------
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยรายงานข่าวกรณีการสู้คดีในชั้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เกี่ยวกับพิพาทเรื่องลิขสิทธิ์ภาพยนต์ยอดมนุษย์ อุลตร้าแมน ระหว่าง บริษัทไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด กับ บริษัทซึบูราญ่า โปรดักชั่นส์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนในประเทศญี่ปุ่น
โดยศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ให้ภาพยนต์จำนวน 9 เรื่อง ได้แก่ 1. Giant VS Jambo ‘A’ 2. Hanuman and the Seven Ultraman 3.Ultraman 1 “Ultra Q” 4.Ultraman 2 5. Ultraman Seven 6. Return Ultraman 7. Ultraman Ace 8.Ultraman Taro และ 9. Jamborg Ace ตกเป็นลิขสิทธิ์ของ บริษัทซึบูราญ่าฯ
ต่อมา ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561
(อ่านประกอบ:หวั่นไทยเสียมรดกชาติ! บ.ไชโยฯ ร้อง 2 กระทรวงช่วย หลังแพ้คดีลิขสิทธิ์อุลตร้าแมน)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ มีคำสั่งไม่รับฎีกาคดีนี้ของนายสมโพธิ แสงเดือนฉาย เจ้าของ บริษัทไชโย โปรดักชั่นส์ ในฐานะจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 (นายพีระศิษฎ์ แสงเดือนฉาย) จำเลยที่ 4 (บริษัทไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด) และจำเลย 6 (บริษัททีไอจีเอ จำกัด) และยกคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา หลังจากศาลฯ ตรวจสำนวนฎีกาแล้วเห็นว่าไม่เป็นปัญหาสำคัญที่วินิจฉัยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 จึงทำให้ลิขสิทธิ์ภาพยนต์จำนวน 9 เรื่อง ได้แก่ 1. Giant VS Jambo ‘A’ 2. Hanuman and the Seven Ultraman 3.Ultraman 1 “Ultra Q” 4.Ultraman 2 5. Ultraman Seven 6. Return Ultraman 7. Ultraman Ace 8.Ultraman Taro และ 9. Jamborg Ace ตกเป็นของ บริษัทซึบูราญ่าฯ แล้ว
(สามารถอ่านคำพิพากษาฉบับเต็มของทั้ง 2 ศาลได้ที่ https://drive.google.com/file/d/1ODm95wH4PkoqJFkLwdiJd8GTdnW-3_4n/view?usp=sharing และ https://drive.google.com/file/d/17CSnKGxL2IcUcYHWppo5fe4gtw3vtOTI/view?usp=sharing)
ขณะที่ นายสมโพธิ ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า ผลจากการที่ฝ่ายตนแพ้คดีในชั้นอุทธรณ์นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพยนตร์ไทย จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ 2.หนุมานพบ 11 ยอดมนุษย์ และ 3. Giant VS jumbo A ที่ลิขสิทธิ์จะต้องตกไปเป็นสมบัติของบริษัทญี่ปุ่น ขณะที่ภาพยนต์ เรื่อง หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ และหนุมานพบ 11 ยอดมนุษย์ ปัจจุบันได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นมรดกของชาติไทยด้วย
"ที่ผ่านมาได้พยายามทำหนังสือถึงกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือข้อกฎหมายในการต่อสู้คดีดังกล่าวแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง จากการที่ต้องสูญเสียภาพยนตร์ที่เป็นเสมือนผลงานของประเทศไทย"
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นาย อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราถึงกรณีนี้ ว่า เท่าที่ทราบข้อมูลยืนยันว่าภาพยนตร์ 2 เรื่องในเอกสารคำพิพากษาเป็นภาพยนตร์ที่คนไทยสร้างแน่นอน
ส่วนในประเด็นเรื่องผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องหนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์นั้นอาจจะถูกถอดออกจากมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ขึ้นอยู่กับการพิพากษาของศาลฎีกา แต่ทางกระทรวงวัฒนธรรมจะช่วยเหลือในเรื่องข้อเท็จจริงต่อไป
(อ่านประกอบ:รมว.วธ.พร้อมช่วยบ.ไชโยฯสู้คดีอุลตร้าแมน-ยันหนัง 'หนุมาน-ยักษ์วัดแจ้งฯ' สร้างโดยคนไทย)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/