'พล.อ.ประยุทธ์’ สั่งศึกษาสร้าง ‘แลนด์บริดจ์’ เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หวังเพิ่มการลงทุนในประเทศระยะยาว ขณะที่ ครม.ไฟเขียวจ้างนักศึกษาจบใหม่ 2.6 แสนอัตรา รอ ‘ก.แรงงาน’ เสนอรายละเอียดเข้าครม.อีกครั้ง พร้อมอนุมัติใช้เงินกู้โควิด 1,866 ล้านบาท ทำโครงการปรับปรุงสหกรณ์-เชียงใหม่แกสโตรโนมี-โปรตีนจากแมลงฯ
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบในหลักการมาตรการจ้างงานนักศึกษาปริญญาตรี ระดับ ปวช. และปวส.จบใหม่ จำนวน 2.6 แสนตำแหน่ง โดยจ้างงานเป็นเวลา 12 เดือน และเมื่อรวมกับการจ้างงานของแต่ละกระทรวง คาดว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานได้ 1 ล้านตำแหน่ง ซึ่งจะเปิดงานจัดงานเอ็กซ์โปเกี่ยวกับตำแหน่งงานต่างๆโดยกระทรวงแรงงานในเร็วๆนี้
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการจ้างงานสำหรับนักศึกษาจบใหม่ 2.6 แสนอัตรา โดยรัฐบาลจ่ายเงินสนับสนุนค่าจ้าง 50% แต่ไม่เกิน 7,500 บาท ให้กับภาครัฐและเอกชนที่รับนักศึกษาจบใหม่เข้าทำงาน โดยเงินเดือนแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ระดับป.ตรี 15,000 บาท/เดือน , ปวส. 11,500 บาท/เดือน และปวช. 9,400 บาท/เดือน
อย่างไรก็ตาม นายจ้างที่เข้าร่วมโครงการจะต้องมีระยะเวลาการจ้างงานทั้งสิ้น 12 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563-30 ก.ย.2564 คาดว่าจะใช้งบประมาณทัง้หมด 23,476 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า ในส่วนการจ่ายเงินชดเชยกรณีว่างงานให้กับแรงงานในระบบประกันสังคม ที่ตกค้างหรือไม่เข้าหลักเกณฑ์ หรือไม่แจ้งบัญชีธนาคาร จำนวน 5 หมื่นคนนั้น จะมีการเลื่อนจ่ายเงินไปเป็นเดือนต.ค.2563
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้พบปะกับสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ อีคอมเมิร์ซ และธุรกิจค้าปลีก เพื่อดูว่าปัญหาอยู่ที่ไหนและรัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุนในส่วนใด เพื่อร่วมมือกันทำงาน เพราะถ้าเป็นราชการทำบางทีก็ไม่สอดคล้อง และไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ผู้ประกอบการเจอมา สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้เขาลดการเลิกจ้างงานพนักงานให้ได้มากที่สุด โดยขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการแจกเงิน 2,000-3,000 บาทนั้น ยังไม่ได้พิจารณาใน ครม. และยังไม่มีรายละเอียดออกมา โดยเงินตรงนี้ต้องพิจารณาว่าจะดูแลผู้ประกอบการรายย่อย ค้าปลีก แม่ค้าพ่อขายข้างล่างที่เดือดร้อนอย่างไร ซึ่งมีกลไกที่กำลังพิจารณาอยู่ เพราะขณะนี้ข้อมูลไม่พร้อม และระบบการจ่ายเงินโดยตรงก็ยังไม่พร้อมเช่นกัน ซึ่งต้องใช้เวลา และขอยืนยันจะให้ผู้บริโภคมีโอกาสซื้อของจากร้านค้าปลีกข้างล่าง ไม่ใช่ผู้ประกอบการรายใหญ่
สำหรับการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในช่วงนี้ รัฐบาจะมุ่งเน้นเรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งปัจจุบันไทยพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวอย่างมาก เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาทั้ง 2 อย่าง เศรษฐกิจของไทยก็เผชิญกับภาวะตกต่ำมาก จึงจำเป็นต้องสร้างเศรษฐกิจใหม่ แม้ว่าไทยจะมีโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แล้วก็ตาม แต่จะต้องมีโครงการใหม่ที่จะเพิ่มการลงทุนในไทยในระยะยาว เช่น การลงทุนเส้นทางขนส่งเชื่อม 2 ฝั่งทะเล (แลนด์บริดจ์)
“วันหน้าเราต้องหาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อให้มีการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มรายได้ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งทุกอย่างต้องใช้เวลาก่อสร้าง อย่างอีอีซีเริ่มมา 5 ปีแล้ว ก็ต้องหาโครงการใหม่ ซึ่งที่เรากำลังดูไว้ คือ การเชื่อมไปมาระหว่างทะเลฝั่งตะวันตกและตะวันออกได้อย่างไร ควรจะมีหรือไม่ ก็ให้ไปศึกษาเรื่องแลนด์บริดจ์ ซึ่งจะช่วยเศรษฐกิจระยะยาวต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องการขนส่งข้ามฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน รวมทั้งต้องมีการสร้างท่าเรือใหม่ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พร้อมกันนั้น ครม.มีมติอนุมัติการใช้เงินกู้เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์โควิด เช่น โครงการปรับปรุงสหกรณ์ให้ทันสมัย วงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นพัฒนาสหกรณ์ให้พร้อมดูแลประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องผลผลิตทางการเกษตร และโครงการเชียงใหม่แกสโตรโนมี (โครงการคิดถึงเชียงใหม่) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมล้านนารูปแบบใหม่ วงเงิน 48 ล้านบาท คล้ายกับมิชลินสตาร์ ซึ่งเป็นการนำเที่ยวเชิงสตรีทฟู๊ด โดยนำร่องใน จ.เชียงใหม่ ก่อนขยายการดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเศรษฐกิจในภาพรวมนั้น หลายอย่างปรับตัวดีขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ หลังจากผ่อนคลายมาตารการป้องกันการแพร่ระบาดฯ และแม้ว่าจะตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อ ก็สามารถติดตามได้ทั้งหมดในชั้นนี้ ทุกอย่างจึงยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยอยู่ ดังนั้น ขออย่าตื่นตระหนก และถือเป็นการทดสอบระบบด้วยว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ
ด้านการป้องกันการแพร่ระบาดตามชายแดน ตนได้กำชับตลอดเวลา และมีการเพิ่มกำลังทหาร และตำรวจ รวมทั้งลดอัตราวงรอบการลาพักลง ซึ่งต้องขอให้กำลังใจเขาด้วยในความเสียสละของเขา รวมถึงเจ้าหน้าที่จราจรที่ดูแลในช่วงวันหยุดยาว และตนได้หารือในครม.ว่า จะพิจารณาหาวันหยุดให้มากขึ้นในระยะต่อไป เพราะทำให้เกิดการท่องเที่ยว มีการหมุนเวียน และใช้จ่ายเงินในการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งทำให้ธุรกิจหลายอย่างดีขึ้น
ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เสนอถึงแนวทางการจ้างงานเด็กจบใหม่จำนวน 2.6 แสนราย ซึ่งเข้าใจว่าที่ประชุมได้รับทราบข้อเสนอดังกล่าว และได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานไปจัดทำรายละเอียดโครงการ รวมถึงงบประมาณที่ต้องใช้ ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาต่อไป
นายอนุชา ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงโครงการ Land Bridege ด้วยว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับโครงสร้างทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้พึ่งพาการส่งออกหรือการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว และมีแนวคิดที่ดำเนินโครงการในลักษณะเดียวกันกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยกรณีนี้ คือ การเพิ่มขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจ ที่ต้องทำให้เกิดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างอ่าวไทยกับฝั่งทะเลอันดามัน
“เรื่องนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น และได้มอบหมายให้สำนักงานสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปจัดทำรายละเอียดและหารือความเป็นไปได้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายอนุชากล่าว
นายอนุชา ยังกล่าวว่า ครม.มีมติรับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้จากพ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติมอีก 3 โครงการ เป็นเงินกู้ทั้งสิ้น 1,866.86 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการปรับโครงสร้างการผลิต การรวบรวม และการแปรรูปของสถาบันเกษตรกรรองรับผลผลิตทางการเกษตร วงเงิน 2,003 ล้านบาท โดยเป็นการใช้เงินจากพ.ร.ก.กู้เงินฯ 1,803 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 200.37 ล้านบาท ให้สหกรณ์ฯที่เข้าร่วมโครงการฯจ่ายสมทบ 10%
2.โครงการ Gastronomy Tourism : LANNA Gastronomy 'คิดถึงเชียงใหม่' วงเงินรวม 48.6 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเงินจากพ.ร.ก.กู้เงินฯ และ3.โครงการพัฒนาการผลิตและใช้โปรตีนจากแมลงเพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ กรอบวงเงินรวม 15.26 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเงินจากพ.ร.ก.กู้เงินฯ
อ่านประกอบ :
ศบศ.ทุ่ม 6.8 หมื่นล.!แจกเงินช้อป 3 พัน 15 ล้านสิทธิ์-ช่วยจ่ายเงินเดือนจ้างเด็กจบใหม่50%
เมินขุดคอคอดกระ! ‘ศักดิ์สยาม’ ย้ำดันแลนด์บริดจ์เชื่อม 2 ฝั่งทะเล-ขู่ขรก.ทำงานไม่ไหวจะให้พัก
ฟันธง 2 ปีเศรษฐกิจกลับสู่ปกติ! ‘วิรไท’ ห่วงนศ.จบใหม่ไม่มีงานทำ-'ปธ.ทีดีอาร์ไอ' แนะตุนเงินสด
ว่างงานแตะ 2.7 ล้านคนยาว 3 ปี! ‘ทีดีอาร์ไอ’ แนะรัฐเร่งใช้งบฟื้นฟูฯ-พัฒนาภาคเกษตรรองรับ
เปิดรายงานกนง. ห่วงจ้างงานอ่อนแอ-จีดีพีทรุดกว่าที่คาด หนุนรัฐปรับโครงสร้างศก. 5 ด้าน
ขอบคุณภาพ : www.thaigov.go.th
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/