คุก 2 ปี 6 ด.! ศาลอุทธรณ์ แก้โทษ อดีตนายกฯฝายกวาง พะเยา รื้อถอนตราชั่ง-ตึกไม่ทำสัญญา

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 19 สิงหาคม 2563 เวลา 08:01 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

4103 views

picdikikikkssssss19 8 63

ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดี 'คำแก้ว ใจดี' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลฝายกวาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา รื้อถอนตราชั่ง-อาคารโดยไม่มีการทำสัญญารื้อถอนแถมไม่นำเงินส่งคลัง ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้โทษจำคุกเหลือ 2 ปี 6 ด.จากเดิมโดนหนัก 6 ปี แต่รับสารภาพลดเหลือ 4 ปี ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

.................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายคำแก้ว ใจดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลฝายกวาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา รื้อถอนตราชั่งและอาคารตราชั่งของเทศบาลตำบลฝายกวางโดยไม่มีการทำสัญญารื้อถอนและไม่นำเงินส่งคลัง

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) มาตรา 123/1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา

โดยความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 151 และ 157 พ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) มาตรา 123/1 ลงโทษตาม ป.อ. 151 ซึ่งเป็นบทหนักตาม ป.อ.มาตรา 90 จำคุก 6 ปี

จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้หนึ่งในสามตาม ป.อ.มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้เป็นว่าให้วางโทษจำคุก จำเลย 5 ปี ลดโทษตาม ป.อ.มาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท