เผยมติ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 'สุภาพร วงศ์ทอง' อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสง่า จังหวัดร้อยเอ็ด -พวก ปกปิดประกาศจัดซื้อจ้าง ทำถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก-ขุดลอก-ก่อสร้างลานกีฬา เจ้าของ 5 ร้านค้าก่อสร้างโดนด้วย ส่งสำนวนอัยการยื่นเรื่องฟ้องศาลตามขั้นตอนกม.แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าการสอบสวนคดีกล่าวหานางสุภาพร วงศ์ทอง เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสง่า จังหวัดร้อยเอ็ด และพวก ประกอบไปด้วย นางบัณฑิต คำยา หัวหน้าส่วนการคลัง นายกันจนา บุญแต่ง หัวหน้าส่วนโยธา นายสำราญ วิชาคำ เจ้าของร้านสำราญก่อสร้าง นายดาวเรือง บุตรสำราญ เจ้าของร้านดาวเรืองการค้า นายบุญเส็ง งามวงษ์ เจ้าของร้านกิจงามวงษ์ นายศรี โพธิ์พยัคฆ์ เจ้าของร้านธวัชชัยก่อสร้าง นายรำไพ พะยังเฆ เจ้าของร้านดงบังก่อสร้าง กรณีปกปิดประกาศการจัดซื้อจัดจ้าง ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โนนสง่า เพื่อกีดกันมิให้มีการแข่งขัน ในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม 2 โครงการ คือ 1.กรณีโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านโนนโพธิ์ หมู่ที่ 5 และโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีต- เสริมเหล็กบ้านโนนจาน หมู่ที่ 7 และ 2. กรณีโครงการขุดลอกหนองเกาะใหญ่บ้านโนนสง่า หมู่ที่ 3 และโครงการก่อสร้างลานกีฬาและ ลานอเนกประสงค์บริเวณที่ทำการ อบต.
โดยผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติดังนี้
1. กรณีโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านโนนโพธิ์ หมู่ที่ 5 และโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีต- เสริมเหล็กบ้านโนนจาน หมู่ที่ 7
นางสุภาพร วงศ์ทอง มีมูลความผิดทาง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจ หรือหน้าที่ในการอนุมัติ การพิจารณาหรือ การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์ปรากฏแจ้งชัดว่าควรรู้ว่า การเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัตินี้ ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้ มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคา ในครั้งนั้นและฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขัน ราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการ เสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา กับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91 และ มีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการ ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติ สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ส่วนนางบัณฑิต คำยา นายกันจนา บุญแต่ง มีมูลความผิดทาง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ของรัฐซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติ การพิจารณาหรือการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์ ปรากฏแจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้น มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการ เกี่ยวกับการเสนอราคาในครั้งนั้น และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคา อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอ ราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอ ราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91 และ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริต ต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานกระทำการ อื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล จังหวัดร้อยเอ็ด เรื่อง หลักเกณฑ์และ เงื่อนไขในการสอบสวนการลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 2 มกราคม 2545 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 19 วรรคสอง
2. กรณีโครงการขุดลอกหนองเกาะใหญ่บ้านโนนสง่า หมู่ที่ 3 และโครงการก่อสร้างลานกีฬาและ ลานอเนกประสงค์บริเวณที่ทำการ อบต.
นางสุภาพร วงศ์ทอง มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ใน หน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติ การพิจารณาหรือการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์ปรากฏ แจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำ ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ละเว้นไม่ดำเนินการ เพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคา ในครั้งนั้น และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคา อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคา รายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการ เสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91 และ มีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราช- บัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ส่วนนางบัณฑิต คำยา นายกันจนา บุญแต่ง มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหรือ หน้าที่ในการอนุมัติ การพิจารณาหรือการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์ ปรากฏแจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้น มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการ เกี่ยวกับการเสนอราคาในครั้งนั้น และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคา อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคา รายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91 และ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือ นโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ อย่างร้ายแรง และฐานกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล จังหวัดร้อยเอ็ด เรื่อง หลักเกณฑ์และ เงื่อนไขในการสอบสวนการลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 2 มกราคม 2545 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 19 วรรคสอง
เบื้องต้น ได้มีการให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และ คำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลที่มี เขตอำนาจพิจารณาพิพากษา คดีกับนางสุภาพร วงศ์ทอง นางบัณฑิต คำยา นายกันจนา บุญแต่ง นายสำราญ วิชาคำ นายดาวเรือง บุตรสำราญ นายบุญเส็ง งามวงษ์ นายศรี โพธิ์พยัคฆ์ และ นายรำไพ พะยังเฆ ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และ คำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย กับนางบัณฑิต คำยาง และ นายกันจนา บุญแต่ง และส่งสำนวนการไต่สวนไปยัง ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และ อำนาจกับนางสุภาพร วงศ์ทอง ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และ มาตรา 98 วรรค 4แล้วแต่กรณีไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งทราบด้วย
อย่างไรก็ดี กรณีนี้เป็นการชี้มูลในชั้นสอบสวนของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. อดีตผู้บริหารนายกอบต.โนนสง่า ร้อยเอ็ด และพวก ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีในชั้นศาลได้อีก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage