'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดสะสม 13.9 ล้าน - เผยผู้เข้าทดลองวัคซีน 'สหรัฐฯ' อาการผลข้างเคียง ไข้ขึ้นสูง คลื่นไส้ หายไม่เกิน 1 วัน- 'บราซิล' ยอดติดเชื้อทะลุ 2 ล. -'อินเดีย'ติดเชื้อเกินล้าน- 'อังกฤษ-แคนาดา-สหรัฐฯ' อ้าง แฮกเกอร์'รัสเซีย'เจาะข้อมูลหน่วยงานทดลองวัคซีน-'ญี่ปุ่น-เยอรมนี'บรรลุข้อตกลงร่วมมือพัฒนาวัคซีน - 'ฟิลิปปินส์' ยอดติดรายวันทะลุ 2 พัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 17 ก.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 13,930,155 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 241,270 ราย เสียชีวิต 591,865 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,644 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 3,689,043 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 67,406 ราย เสียชีวิต 141,043 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 888 ราย โดยรัฐ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐฟลอริดา มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 13,965 ราย
ส่วนสถานการณ์อื่นๆ ในสหรัฐฯ นั้น มีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนที่สถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯร่วมพัฒนากับบริษัท Modernaเพื่อใช้รักษาโรคโควิด 19 โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้สัมภาษณ์นายเอียน เฮย์ดอนผู้เข้าทดลองรับการรักษาวัคซีน ถึงผลข้างเคียงเกี่ยวกับวัคซีน
โดยนายเอียน ยืนยันว่า หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีน 1 โดสที่มีขนาด 250 ไมโครกรัม เขามีอาการผลข้างเคียงคือมีอาการไข้สูง และมีอาการคลื่นไส้
“ผมมีอาการเช่นไข้สูง คลื่นไส้ ปวดกล้ามเนื้อ เหนื่อยล้า จนต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การดูแลโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด แต่พอผ่านไปได้วันหนึ่งอาการเหล่านี้ก็หายไป ตอนนี้ไม่มีอาการจากผลข้างเคียงแล้ว” นายเอียนกล่าว
นายเอียน เฮย์ดอนผู้เข้าทดลองรับการรักษาวัคซีน (อ้างอิงรูปภาพจากซีเอ็นเอ็น)
รายงานข่าวควาคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน (อ้างอิงวิดีโอจากช่อง Today)
สำหรับสถานการณ์ในประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 317,635 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 6,149 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 36,906 ราย เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 579 ราย
ล่าสุด ทางการเม็กซิโกได้ออกคำสั่งให้ใช้มาตรการปิดเมือง จำกัดการเคลื่อนไหว จำกัดกิจกรรมทางการค้า และสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแล้วเพื่อจะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส
ทวีปอเมริกาใต้ บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 2,014,738 ราย ติดเชื้อใหม่ 43,829 ราย เสียชีวิต 76,822 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,299 ราย ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตใหม่เป็นอันดับ 1 ของโลก และบราซิลยังเป็นประเทศลำดับ 2 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 2 ล้านราย
ทวีปยุโรปประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 752,797 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,428 ราย เสียชีวิต 11,937 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 167 ราย
ขณะที่นายคิริล ดมิทรีฟ (Kirill Dmitriev) หัวหน้ากองทุนเพื่อการลงทุนของประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า รัสเซียจะเริ่มกระบวนการทดลองวัคซีนต้านไวรัสของประเทศรัสเซียในระยะที่ 3 หรือระยะทดสอบในมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ช่วงวันที่ 3 ส.ค.นี้ ซึ่งตามกำหนดการการทดสอบวัคซีนระยะที่ 1 หรือการทดสอบในมนุษย์แบบปลอดภัย และการทดสอบวัคซีนในระยะที่ 2 หรือการขยายการทดสอบในมนุษย์ ที่ดำเนินการควบคู่กันไปทั้ง 2 ระยะ ในกลุ่มอาสาสมัครชาวตะวันออกกลางที่ได้รับค่าตอบแทนจำนวน 38 รายจะเสร็จสิ้นการทดสอบก่อนสิ้นสัปดาห์นี้
โดยผู้เชี่ยวชาญได้ยืนยันว่าวัคซีนนั้นมีความปลอดภัย แต่ยังคงไม่เปิดเผยข้อมูลว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาการติดไวรัสโควิด 19 ได้มากน้อยแค่ไหน
ขณะที่ประเทศอังกฤษ ศูนย์ความมั่นคงแห่งชาติด้านไซเบอร์ของประเทศอังกฤษ (NCSC) ได้ออกประกาศเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ชื่อว่า APT29 หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า Cozy Bear ที่คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองรัสเซีย กำลังเล็งเป้าไปที่องค์กรและหน่วยงานที่ดำเนินการพัฒนาวัคซีนทั้งในประเทศอังกฤษ ประเทศแคนาดา และในประเทศสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ,หน่วยงานด้านความมั่นคงการสื่อสารของแคนาดา (CSE) และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งชาติสหรัฐฯก็ได้ออกมาประกาศเตือนให้ระวังแฮกเกอร์จากรัสเซียเช่นกัน
เบื้องต้น หน่วยข่าวกรองรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธรายงานดังกล่าวแล้ว
ทวีปเอเชียอินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,005,637 ราย ติดเชื้อใหม่ 35,468 ราย เสียชีวิตสะสม 25,609 ราย เสียชีวิตใหม่ 680 ราย ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่ 3 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 1 ล้านราย
สำหรับ ประเทศจีน มีการระบาดใหม่จำนวน 1 ราย โดยเป็นการระบาดจากต่างประเทศทั้งหมด
ขณะที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 67 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 619 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 286 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในกรุงโตเกียว
ขณะที่นายคาซูโยชิ อาคาบะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และการท่องเที่ยวได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะทบทวนโครงการสนับสนุนให้ประชาชนในประเทศญี่ปุ่นท่องเที่ยวในประเทศตัวเอง (Go To Travel Campaign) อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่จำนวนผู้ติดโควิด 19 ในพื้นที่ต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ มีรายงานว่านายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้บรรลุข้อตกลงที่จะร่วมมือกับนางอังเกลา มาร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โดยรายละเอียดข้อตกลงนั้นระบุว่าทั้ง 2 ประเทศจะมีความร่วมมือกันในทุกระดับเพื่อจะช่วยแก้ไขสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 รวมไปถึงการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสร่วมกัน
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 81,668 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,574 ราย เสียชีวิตสะสม 3,873 ราย เสียชีวิตใหม่ 76 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนที่ประเทศฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,498 ราย ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย และพม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 324,221 ราย ติดเชื้อใหม่ 13,172 ราย เสียชีวิต 4,669 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 216 ราย
ส่วน อียิปต์ มีผู้ติดเชื้อสะสม85,771 ราย ติดเชื้อใหม่ 928 ราย เสียชีวิต 4,120 ราย เสียชีวิตใหม่ 53 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 330 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 317 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ 10 ราย
ขณะที่ นิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage