'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุดติดเชื้อสะสม 7.7 ล้าน - 'บราซิล' ยอดตาย 4 หมื่นแซงหน้าอังกฤษขึ้นอันดับ 2 โลก - ล่าสุดภรรยา ปธน.ยูเครนติดเชื้อด้วย - 'สหรัฐ' พบโควิดกลายพันธ์ุแพร่ง่ายขึ้น - WHO เผยแม่ติดเชื้ออาการไม่รุนแรงให้นมลูกได้ไม่เสี่ยง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัส ว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นางโอลีน่า เซเลนสกา ภรรยาของนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกีประธานาธิบดียูเครน ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เธอได้รับทราบผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เป็นบวก แต่สามีและบุตรทั้ง 2 คน ยังคงมีผลตรวจเป็นลบ แม้ว่าครอบครัวของเธอจะปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดทั้งการใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย และการลดการพบปะกับผู้อื่นก็ตาม ซึ่งหลังจากทราบผลเธอจะกักตัวเองจากสามีและลูกต่อไป
ขณะที่ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ ได้ยกเลิกกิจกรรมที่ต้องพบปะกับผู้คนหมู่มากทั้งหมดแล้ว รวมถึงการเดินสายนอกกรุงเคียฟด้วย
นางโอลีน่า เซเลนสกา กับประธานาธิบดียูเครน (อ้างอิงรูปภาพจาก:https://www.unian.infol)
ส่วนสถานการณ์ที่สหรัฐอเมริกานั้น ที่รัฐฟลอริดา นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยสคริปส์ ออกมาเปิดเผยว่า ทางสถาบันได้ตรวจสอบพบการกลายพันธ์ุของโปรตีนรูปหนามซึ่งเป็นโครงสร้างชั้นนอกของไวรัสโควิด ซึ่งการกลายพันธ์ุกล่าวจะส่งผลทำให้ไวรัสมีคุณลักษณะในการเกาะติดกับเซลล์ของมนุษย์ได้ง่ายขึ้น หรือจะส่งผลทำให้ไวรัสนั้นสามารถติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
Spike หรือโปรตีนหนามของไวรัสโคโรน่าที่มีส่วนทำให้ติดเชื้อในเซลล์ได้ง่ายขึ้น (อ้างอิงรูปภาพจาก:https://healthcare-in-europe.com)
ขณะที่ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO นายเทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ได้แถลงข่าวว่าจากผลสำรวจพบว่าไม่มีความเสี่ยงที่ผู้หญิงติดเชื้อโควิดจะสามารถแพร่เชื้อต่อไปยังทารกผ่านการให้นมแม่ได้ ประโยชน์จากการให้นมแม่ ณ เวลานี้ยังเหนือกว่าความเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อจากน้ำนม
นายเทดรอส ยังกล่าวต่อไปว่าสำหรับผู้เป็นแม่ที่ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิดนั้น ถ้าหากอาการยังไม่รุนแรงมาก ก็ไม่ควรที่จะต้องแยกออกจากทารกแต่อย่างใด
สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทั่วโลกนั้น ในช่วงเช้าวันที่ 13 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ป่วยทั้งสิ้นว่า มีจำนวน 7,726,016 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 140,917 ราย เสียชีวิต 427,689 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4,603 ศพ
ทวีปอเมริกาเหนือสหรัฐฯยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ2,116,922 ราย ติดเชื้อรายใหม่27,221 ราย เสียชีวิต 116,825 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 791 ศพ ทำให้สหรัฐฯกลับมามีผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในโลกอีกครั้งหนึ่ง
ทวีปอเมริกาใต้ บราซิล มียอดผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ของทวีปและอันดับ 2 ของโลก โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 829,902 ราย ติดเชื้อใหม่ 24,253ราย เสียชีวิต 41,901ศพ เสียชีวิตใหม่ 843 ศพ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตใหม่นั้นถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมของบราซิลนั้นแซงหน้าอังกฤษขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลก
ทวีปยุโรปรัสเซียมีผู้ติดเชื้อ 511,423 ราย ติดเชื้อใหม่ 8,987 ราย เสียชีวิต 6,715 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 183 ศพ
ทวีปเอเชีย อินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 309,603 ราย ติดเชื้อใหม่ 11,320 ราย เสียชีวิต 8,890 ศพ เสียชีวิตใหม่ 389 ศพ
ส่วนสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน นั้น สิงคโปร์ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 39,850 ราย ติดเชื้อใหม่ 463 ราย เป็นแรงงานต่างชาติติดเชื้อจำนวน 445 ราย เสียชีวิตสะสม 25 ศพ
ขณะที่อินโดนีเซีย มียอดติดเชื้อรายวันสูงสุดในอาเซียนอยู่ที่ 1,111 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศอยู่ที่ 36,406 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียนอยู่ที่ 2,048 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 48 ศพ
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้นั้นเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 61,927ราย ติดเชื้อใหม่ 3,359 ราย เสียชีวิต 1,354 ศพ เสียชีวิตใหม่ 70 ศพ
เรียบเรียงจาก:https://www.theguardian.com/world/live/2020/jun/12/coronavirus-live-news-markets-fall-over-fears-of-long-us-recovery-as-brazil-cases-top-800000,https://edition.cnn.com/world/live-news/coronavirus-pandemic-06-12-20-intl/index.html
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage