'อนุทิน' สั่งตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง 186 รพ.ถูกกล่าวหาเรียกรับเงินบริษัทยา วงเงินกว่า 43.5 ล้าน หลังถูกนักวิชาการให้ข้อมูลแก่ สธ. 'มล.สมชาย จักรพันธ์ุ' นำทีม 'รองปลัด สธ.-หน.สำนักกฎหมายฯ' มาด้วย ลั่นทำให้เป็นมาตรฐานเดียว ถ้าพบว่ากล่าวหาเท็จคนพูดต้องรับผิดชอบ
จากกรณี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวถึง การออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกรณีมีผู้ร้องเรียนในลักษณะบัตรสนเท่ห์ อ้างว่า นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น เรียกรับเงินจากบริษัทยา ร้อยละ 5 ซึ่งเข้าข่ายเรียกรับผลประโยชน์ต่างตอบแทน ระหว่างเดือน มี.ค. - ต.ค. 2561 ขณะเดียวกันยังเผยแพร่ข้อมูลจากนายมนู สว่างแจ้ง นักวิชาการอิสระ อดีตผู้จัดการใหญ่ บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสำรวจปัญหาโรงพยาบาลในสังกัดของรัฐ เรียกรับเงินจากบริษัทยา ร้อยละ 5 โดยพบว่ามีโรงพยาบาลอย่างน้อย 186 แห่งเรียกรับเงินจากบริษัทยา รวมวงเงิน 43.5 ล้านบาท แบ่งเป็น โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป มีการรับเงินจำนวน 22 แห่ง มูลค่า 19 ล้านบาท ส่วนโรงพยาบาลชุมชุนในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) รับเงินจำนวน 164 แห่ง มูลค่า 24.50 ล้านบาทนั้น (อ่านประกอบ : รับเงิน บ.ยา 5% ลาม รพ.ทหาร! ปลัด สธ.ยันสอบ ผอ.ขอนแก่น ทำตามมติ ครม.ป้องกันทุจริต)
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนี้ว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีโรงพยาบาล 186 แห่ง ถูกกล่าวหารับเงินจากบริษัทยาแล้ว ประกอบด้วย มล.สมชาย จักรพันธ์ ประธานคณะที่ปรึกษา รมว.สธ. เป็นประธานกรรมการฯ นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัด สธ. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัด สธ. พ.ต.อ.ประเวศ วงษ์ประมุข หัวหน้าสำนักงานกฎหมายของนายอนุทิน นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ตัวแทนจากโรงพยาบาล ตัวแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งกรรมการจะเป็นผู้คัดเลือก เป็นกรรมการ โดยมีกรอบการทำงานคือให้ทำโดยเร็ว และรายงานตรงถึงตน
เมื่อถามว่ากรรมการชุดนี้จะสอบไปถึงกรณีมีเอกสารใบเสร็จรับเงินจากบริษัทยา ของโรงพยาบาลชุมแพด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการจะตรวจสอบเป็นมาตรฐานเดียว รวมถึงกรณีเอกสารการรับเงินบริษัทยาของโรงพยาบาลชุมแพด้วย ยืนยันไม่ได้เพิกเฉย แต่ก็มีวิธีการแก้ปัญหาที่คงไม่เหมือนคนอื่น ทุกอย่างต้องเป็นธรรม ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ใช่ผู้เสียหายหรือได้ประโยชน์ในเรื่องนี้ ยึดถือระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และรัฐธรรมนูญ
"มีการกล่าวหาโรงพยาบาล186 แห่ง คิดเป็นกว่า 20% ของโรงพยาบาลในสังกัด สธ. ต้องรับผิดชอบทั้ง 2 ฝ่าย หากไม่จริงคนกล่าวหาก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าจริงโรงพยาบาลเหล่านั้นก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งตรวจสอบไม่ยาก สามารถดูบัญชีธนาคาร ดูการออกใบเสร็จรับเงิน เพราะถ้ามีการบริจาคเข้ามาแบบนี้ต้องมีการเอาไปหักภาษี ถ้าไม่มีตรงนี้ แต่กลับมีเงินเข้ามาจำนวนมากอาจจะมีความผิดปกติอะไรหรือไม่ ส่วนนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยที่เรื่องลุกลามใหญ่โตหรือไม่นั้น ไม่อยากให้มองว่าลุกลามใหญ่โต เพราะเรื่องเกิดขึ้นแค่ตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องความรู้สึกที่พิสูจน์ไม่ได้" นายอนุทิน กล่าว
อ่านประกอบ :
รับเงิน บ.ยา 5% ลาม รพ.ทหาร! ปลัด สธ.ยันสอบ ผอ.ขอนแก่น ทำตามมติ ครม.ป้องกันทุจริต
พลิกหนังสือ ป.ป.ช. กรณี รพ.รับเงิน บ.ยา ก่อนปัญหาย้าย ผอ.ขอนแก่น
ห้ามรับ‘ค่าคอมมิชชัน’ บ.ยา ! มาตรการป้องทุจริต ป.ป.ช.เทียบกรณี รพ.ระยอง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/