'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 7.3 ล้าน - นักวิจัยสหรัฐคาด 'อู่ฮั่น' โควิดระบาดตั้งแต่ ส.ค. 62 - ปธน.บุรุนดีถึงหัวใจวายถึงแก่อสัญกรรม 10 วัน ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับภรรยาที่ติดเชื้อโควิดหรือไม่ - ศาลสูงบราซิลสั่ง สธ.เผยแพร่ภาพรวมติดเชื้อโควิดทั่วประเทศ- หวั่นก่อนสิ้นปี คนเข้าคิวใช้ รพ.อังกฤษสูง 10 ล้านราย ล่าสุดพบ ผจก.สโต๊คซิตี้ ติดโควิดด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัส ว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นักวิจัยจากวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์วาร์ด,จากมหาวิทยาลัยสุขภาพบอสตัน และ จากโรงพยาบาลเด็กบอสตัน เปิดเผยผลการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมว่ามีจำนวนรถเข้ามาที่โรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน มากผิดปกตินับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2562 เป็นต้นมา และจำนวนรถยังได้เพิ่มสูงขึ้นจนถึงจุดสูงสุดในเดือน ธ.ค. 2562
นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้จากการสำรวจบนเว็บไซต์ ‘ไป่ตู้’ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลของประเทศจีนว่าการค้นหาคำว่าอาการไอ และท้องเสียในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนจะมีการยืนยันเชื้อโควิด 19 ในประเทศจีนเมื่อช่วงต้นปี 2563 ซึ่งทั้งหมดนั้นบ่งชี้ได้ว่าไวรัสโควิด 19 อาจจะเริ่มระบาดในประเทศจีนมาได้ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. 2562 แล้ว
แต่อย่างไรก็ตามทางกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้กล่าวว่าผลการวิจัยดังกล่าวนั้นถือเป็นเรื่องที่ไร้สาระ
ส่วนที่ประเทศบุรุนดีนั้นมีรายงานว่า นายปิแอร์ เอ็นคูรุนซีซา ประธานาธิบดีประเทศบุรุนดีได้ถึงแก่อสัญกรรม จากอาการหัวใจวายเมื่อช่วงวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านนั้นนายปิแอร์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากรู้สึกไม่สบายหลังจากการรับชมวอลเลย์บอล และอาการของนายปิแอร์ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2563 นายปิแอร์ก็เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นขึ้นมา
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลไม่ยืนยันว่าเชื้อโควิด 19 นั้นอาจเป็นสาเหตุของการถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีบุรุนดี เนื่องจากเมื่อสิบวันก่อน ภรรยาของนายปิแอร์ได้เดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศเคนยา หลังจากมีการตรวจพบว่าเธอติดเชื้อโควิด 19
นายปิแอร์ เอ็นคูรุนซีซา ประธานาธิบดีบุรุนดี (อ้างอิงรูปภาพจากเดอะการ์เดี้ยน)
ส่วนที่ประเทศบราซิลนั้น ศาลสูงสุดของบราซิลได้ออกคำสั่งให้คณะทำงานของนายฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิลได้เปิดเผยตัวเลขภาพรวมของผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศบราซิลบนเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขบราซิลอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการนำเอาตัวเลขดังกล่าวออกไป โดยนายฌาอีร์อ้างว่าตัวเลขภาพรวมนั้นไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ประเทศ
ส่วนที่ประเทศคิวบานั้นได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าสถานการณ์โรคโควิด 19 นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว หลังจากที่คิวบาไม่พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด 19 เป็นระยะเวลา 9 วันติดต่อกัน และในวันเดียวกันนั้นเองทีมแพทย์คิวบาจำนวน 52 ได้เดินทางกลับมาจากประเทศอิตาลีมาถึงประเทศคิวบาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่ประเทศอังกฤษนั้นมีรายงานว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษได้คาดการณ์ว่าจำนวนผู้เข้าคิวรอการรักษาโรคอื่นๆที่ไม่ร้ายแรง และไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด 19 ที่โรงพยาบาลนั้นอาจจะสูงถึง 10 ล้านคน ก่อนสิ้นปี 2563
ส่วนความเคลื่อนไหวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้น มีรายงานว่าสโมสรสโต๊คซิตี้ได้ตัดสินใจยกเลิกการเตะกับสโมสนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเนื่องจากนายไมเคิล โอนีล ผู้จัดการสโมสรสโต๊คซิตี้ถูกตรวจพบว่าติดโควิด 19
นายไมเคิล โอนีล ผู้จัดการสโมสรสโต๊คซิตี้(อ้างอิงรูปภาพจากเดอะซัน)
สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทั่วโลกนั้น ในช่วงเช้าวันที่ 10 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ป่วยทั้งสิ้นว่า มีจำนวน 7,312,198 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 121,751 ราย เสียชีวิต 413,003 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4,763 ศพ
ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐฯยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 2,045,549 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 19,056 ราย เสียชีวิต 114,148 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,093 ศพ
ทวีปอเมริกาใต้ บราซิล มียอดผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ของทวีปและอันดับ 2 ของโลก โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 742,084 ราย ติดเชื้อใหม่ 31,197 ราย เสียชีวิต 38,497 ศพ เสียชีวิตใหม่ 1,185 ศพ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตใหม่นั้นถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ทวีปยุโรป รัสเซียมีผู้ติดเชื้อ 485,253 ราย ติดเชื้อใหม่ 8,595 ราย เสียชีวิต 6,142 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 171 ศพ
ทวีปเอเชีย อินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 276,146 ราย ติดเชื้อใหม่ 10,218 ราย เสียชีวิต 7,750 ศพ เสียชีวิตใหม่ 277 ศพ
ส่วนสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน นั้น สิงคโปร์ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 38,514 ราย ติดเชื้อใหม่ 218 ราย เป็นแรงงานต่างชาติติดเชื้อจำนวน 212 ราย เสียชีวิตสะสม 25 ศพ
ขณะที่อินโดนีเซีย มียอดติดเชื้อรายวันสูงสุดในอาเซียนอยู่ที่ 1,043 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศอยู่ที่ 33,076 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียนอยู่ที่ 1,923 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 40 ศพ
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้นั้นเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 โดยมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 52,991 ราย และเสียชีวิต 1,162 ศพ
เรียบเรียงจาก:https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/international,https://www.straitstimes.com/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage