‘ศาลปกครองสูงสุด’ ยกฟ้องคดี ‘สหวิริยา’ ฟ้องขอเพิกถอนมติครม.ที่เห็นชอบ ‘พรุแม่รำพึง’ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ พร้อมกำหนด 17 มาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ปิดทางสร้างโรงถลุงเหล็กในพื้นที่อุตสาหกรรมเหล็ก ‘บางสะพาน’
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องคดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของกฎที่ออกโดยคณะรัฐมนตรี ระหว่างบริษัท เครือสหวิริยา จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 1 และบริษัท โรงถลุงเหล็กสหวิริยา จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 2 กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้ถูกฟ้องคดี
สำหรับคดีพิพาทดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 ยื่นฟ้องต่อศาลฯขอให้ศาลฯมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเพิกถอนมติครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2552 เรื่อง เห็นชอบการขึ้นทะเบียนรายนามพรุแม่รำพึง ต.แม่รำพึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ และเห็นชอบต่อมาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำรวม 17 มาตรการ ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมในคราวประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2552
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ถูกฟ้องทั้ง 2 ซึ่งสนใจที่จะจัดตั้งโรงถลุงเหล็ก ขนาดกำลังผลิต 30 ตัน ตั้งอยู่ที่อุตสาหกรรมเหล็กบางสะพาน ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับความเดือดร้อนจากมติครม.ดังกล่าว อันเป็นเหตุให้โครงการของผู้ถูกฟ้องทั้ง 2 ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม หลังศาลปกครองสูงสุดออกนั่งพิจารณาคดี โดยได้รับฟังสรุปข้อเท็จจริงของตุลาการเจ้าของสำนวน และคำชี้แจงด้วยวาจาประกอบคำแถลงคดีของตุลาการผู้แถลงคดี รวมทั้งพิจารณาเอกสารทั้งหมดในสำนวนคดี กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่ามติของดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/