ที่ประชุม สมช. มีมติเห็นชอบต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอีก 1 เดือน ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ชี้แม้สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในไทยจะดีขึ้น แต่ทั่วโลกยังน่าเป็นห่วง เตรียมชง 'ศบค.' พิจารณาพรุ่งนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผย ได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานด้านข่าวกรอง และหน่วยงานด้านสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ เข้าหารือถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยทุกหน่วยงานเห็นพ้องให้มีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯออกไปอีก 1 เดือนถึง มิ.ย.2563 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.นี้
"ดูเหมือนว่าสถานการณ์ดีขึ้น แต่สถานการณ์โลกยังน่าเป็นห่วง มีตัวเลขเพิ่มขึ้นทุกวัน ไทยเองแม้จะประสบความสำเร็จ แต่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง การผ่อนคลายต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้การติดเชื้อระลอกสองกลับมาที่ไทย ด้วยเหตุผลจำเป็นดังกล่าว ทุกหน่วยจึงเห็นพ้องต้องกันให้ต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 1 เดือนโดยให้ครอบคลุมห้วงเดือน มิ.ย.ทั้งเดือน และเป็นข้อสรุปที่เราได้ในวันนี้"พล.อ.สมศักดิ์ระบุ
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) สมช.จะเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบการต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.63
พล.อ.สมศักดิ์ ย้ำว่า ในการประชุมสมช.ครั้งนี้ ที่ประชุมพยายามชั่งน้ำหนักทุกมิติ ซึ่งแน่นอนว่าความมั่นคงเป็นแกนหลัก แต่ก็เห็นความสำคัญในด้านสาธารณสุขเป็นหลักเช่นเดียวกัน เพราะนี่คือแนวคิดที่ทำมาตั้งแต่ต้น และเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญที่สุด โดยจะเห็นว่าการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตั้งแต่ 26 มี.ค.63 และต่ออายุจนถึงสิ้นเดือนพ.ค.63 ทำให้การควบคุมสถานการณ์โควิดได้ผลค่อนข้างน่าพอใจ
"เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สถานการณ์การควบคุมโรคค่อนข้างน่ากลัว นายกฯ จึงตัดสินใจให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เราจัดตั้ง ศบค. รวมถึงศูนย์ปฏิบัติการต่างๆที่จะเริ่มทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.-พ.ค. สถานการณ์การควบคุมโรคค่อนข้างได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า ทั่วโลกก็ชื่นชมรัฐบาลและระบบสาธารณสุขมีประสิทธิภาพ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเหลือหลักหน่วย" พล.อ.สมศักดิ์กล่าว
ส่วนการพิจารณากำหนดเวลาเคอร์ฟิว พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้คุยกันเรื่อง พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพียงอย่างเดียว แต่เรื่องการผ่อนคลายระยะที่ 3 จะพูดถึงเรื่องเคอร์ฟิวด้วย ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 27 พ.ค. ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้กระทบชีวิตประชาชน ซึ่งอาจจะมีผ่อนคลายในห้วงระยะเวาที่เหมาะสม แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะปรับเหลือระยะเวลาเท่าไร ทั้งนี้มาตรการเคอร์ฟิว ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดดีขึ้น จำกัดความเคลื่อนไหวของคนบางประเภทที่ไม่ยอมใช้ชีวิตแบบสมถะ และทำให้การอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ทำได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามต้องดูอีกครั้งว่าในการผ่อนคลายระยะที่ 3 อาจจะพิจารณาให้ห้วงเวลาลดน้อยลงหรือเท่าเดิม ก็ขึ้นอยู่กับเหตุผลความจำเป็น
เมื่อถามว่า ที่ประชุมพูดถึงมาตรการผ่อนคลายเกี่ยวกับโรงเรียนหรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะเปิดเทอมวันที่ 1 ก.ค. ดังนั้นในห้วงเดือน มิ.ย.จะมีการพูดคุยกันมากยิ่งขึ้น เพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ เพราะสถานการณ์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ และฝรั่งเศส หลังจากเปิดโรงเรียนแล้ว ทำให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ดังนั้นก่อนเปิดเรียน ต้องมีการพูดคุยกันอย่างเข้มมข้น ว่าจะเปิดในลักษณะไหน รูปแบบไหน เท่าที่ฟัง รมว.ศึกษาธิการ การเปิดเทอมยังอยู่ที่วันที่ 1 ก.ค.และจะยึดถือกำหนดนั้นต่อไป แต่ถ้าจะเปิดเทอมก่อนหน้านั้น ก็ต้องมาคุยกันว่ามาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และ สมช.แจะดำเนินการอย่างไร
ส่วนการพิจารณากรอบระยะเวลาในการเปิดสนามบินนั้น พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แต่เป็นเรื่องพิจารณาของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) และเป็นมาตรการที่สอดคล้องกับมาตรการในภาพรวมอยู่แล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/