คุก 50 ปี ไม่รอลงอาญา! อดีตพนง.กรุงไทยราชบุรี ยักยอกเงินบัญชีฝากลูกค้า

ป.ป.ช. เผยแพร่ผลคดีชี้มูลความผิด 'มนัสนันทน์ ศุภรัตนชาติพันธ์ หรือ นางเกื้อกูล คัมภีร์เวช' อดีตพนง.ธนาคารกรุงไทย สาขาราชบุรี ยักยอกเงินบัญชีฝากลูกค้า ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษ จำคุก 50 ปี ไม่รอลงอาญา

picmouududuuuf28

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นางมนัสนันทน์ ศุภรัตนชาติพันธ์ หรือ นางเกื้อกูล คัมภีร์เวช อดีตพนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาราชบุรี ร่วมกันยักยอกเงินจากบัญชีเงินฝากของลูกค้า ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วความผิดของพนักงานฯ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 มาตรา 8 และ มาตรา 11 ความผิดทางอาญา ป.อ. มาตรา 264 ,265 และ 268 ประกอบ ม. 83 และ ม.91 ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2551

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตาม ป.อ. ม.268 เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ. มาตรา 91 การกระทำความผิดแต่ละกรรมเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ.มาตรา 90 เมื่อความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษเท่ากันให้จำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปีขึ้นไป

เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วโทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินห้าสิบปีตามป.อ. มาตรา 91 สั่งลงโทษ จำคุก 50 ปี

สำหรับ ป.อ. มาตรา 264 ระบุว่า ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน

มาตรา 265 ระบุว่า ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท

มาตรา 268 ระบุว่า ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น หรือเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นเองให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่กระทงเดียว

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา ศาลอาญาคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบภาค 7