ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนโทษจำคุก 2 กระทง 10 ปี 'ฐิติวัชร์ ศิริพร' อดีตอัยการจังหวัดยโสธร ทุจริตเรียกรับเงิน 3 หมื่น ช่วยเหลือบุคคลไม่ให้ถูกฟ้องคดี -ชั้นฎีกายกคำร้องไม่รับฎีกา-โดนไล่ออกราชการนานแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.63 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีการรายงานคดี นายฐิติวัชร์ ศิริพร อดีตอัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดยโสธร ช่วยราชการสำนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี เรียกรับเงินจำนวน 30,000 บาท เพื่อใช้อำนาจช่วยเหลือบุคคล 4 รายไม่ให้ถูกฟ้องคดี ซึ่งศาลฎีกา มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกา หลังจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดจำคุก 10 ปี ส่วนศาลอุธรณ์มีคำพิพากษายืนตาม
โดยผลรายงานคดี ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 เวลา 09.30 น. ศาลนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.89/2560 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท.452/2560 ระหว่างอัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชนี เป็นโจทก์ นายฐิติวัชร์ ศิริพร อดีตอัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดยโสธร ช่วยราชการสำนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นจำเลย เรื่อง เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ
กรณีเรียก รับ หรือยอมจะรับเงินจำนวน 30,000 บาท สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการใช้อำนาจและหน้าที่ในตำแหน่งพนักงานอัยการโดยทุจริตช่วยเหลือบุคคลสี่รายไม่ให้ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาล
ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 157 , 201
ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 2 กระทง รวมจำคุก 10 ปี
ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืน
ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกา ให้ยกคำร้อง และไม่รับฎีกาของจำเลย
สำหรับ นายฐิติวัชร์ ศิริพร ถูกไล่ออกจากราชการตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุการณ์แล้ว
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ระบุว่า เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่ไม่ว่าจะมีการเพิ่มโทษ ลดโทษ หรือลดมาตราส่วนโทษด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว โทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินกำหนดดังต่อไปนี้
(1) สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปี
(2) ยี่สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี
(3) ห้าสิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปีขึ้นไป เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/