‘ศรีสุวรรณ’ อ้างมีหลักฐานใหม่ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวหา ‘วัฒนา อัศวเหม’ เร่งรัดสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน แต่ศาลฎีกาฯพิพากษาไปแล้วตั้งแต่ปี 52 ทำให้คดีขาดอายุความ ลั่นหน่วยงานยุติธรรม-อัยการ-ศาลต้องรื้อคดีใหม่ คนใกล้ชิดเผยเจ้าตัวพร้อมกลับมาสู้คดี
จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ระบุว่า มีหลักฐานใหม่ในคดีทุจริตการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ โดยอ้างว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตีตกข้อกล่าวหาผู้บริหารท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองด่าน กรณีอนุมัติใบอนุญาตเพื่อนำไปเบิกเงินค่าที่ดินในโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียกับนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ทำให้นายวัฒนา อาจพ้นผิดข้อกล่าวหาดังกล่าวด้วยนั้น (อ่านประกอบ : ‘วัฒนา’อาจพ้นผิด! ‘ศรีสุวรรณ’เปิดหลักฐานใหม่ ป.ป.ช.ตีตกข้อหา ส.อบต.คดีคลองด่าน)
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยถึงประเด็นนี้เพิ่มเติมว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาจากนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ นายเฉลา ทิมทอง กรมควบคุมมลพิษ กองบังคับการกองปราบปราม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และต่อมาได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนโดยมีน.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานฯ กรณีกล่าวหานายวัฒนา อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่รัฐมนตรี ข่มขืนใจ หรือจูงใจให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลคลองด่าน จัดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อสร้างอาคารโครงการจัดการน้ำเสีย และได้มีการจัดทำหลักฐานการประชุมสภาอันเป็นเท็จ เพื่อนำหลักฐานการพิจารณาอนุญาตดังกล่าวไปใช้ประกอบการเบิกเงินค่าที่ดิน ที่นายวัฒนามีส่วนได้เสียและได้รับประโยชน์จากเงินค่าที่ดินด้วยนั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมาสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือยืนยันมาถึงนายวัฒนาว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าการเร่งรัดของนายวัฒนา อัศวเหม เป็นการข่มขืนใจหรือไม่ และต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษา อม.2/2552 แล้ว ซึ่งเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดทำให้คดีขาดอายุความ สิทธิในการนำคดีอาญาไปฟ้องศาลย่อมระงับไปด้วย ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 39(6) กรณีดังกล่าวสอดคล้องกับการที่สำนักงาน ป.ป.ช. มีหนังสือเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2562 ถึงนายณรงค์ ยอดศิรจินดา อดีตประธาน อบต.คลองด่าน นายวรเดช หรือบุญลือ โพธิ์อรุณ และนายชะเอม ปู้มิ้ม อดีต ส.อบต.คลองด่าน ที่เคยถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ในกรณีดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติและมีหนังสือยืนยันมาแล้วว่า ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่าบุคคลทั้ง 3 คนได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาจึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไปแล้วด้วย
“ประเด็นดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเห็นว่า เมื่อหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารของทางราชการจากองค์กรอิสระยืนยันมาเช่นนี้ ก็ควรที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทั้งรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการ ฯลฯ ต้องเสนอเรื่องพร้อมหลักฐานใหม่ไปยังศาลที่มีคำพิพากษาไปแล้วเพื่อรื้อฟื้นคดีความต่าง ๆ ที่เกี่ยวพันกับข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยต้องเปิดโอกาสให้นายวัฒนา อัศวเหม กลับมาสู้คดีอีกครั้งตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ ซึ่งบุคคลใกล้ชิดกับนายวัฒนา ได้ยืนยันกับสมาคมฯว่านายวัฒนา พร้อมที่จะกลับมาต่อสู้คดีในศาลเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อความเป็นธรรมต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด” นายศรีสุวรรณ กล่าว
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดต่อไปยังนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีนี้แล้ว แต่นายวรวิทย์ ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
อ่านประกอบ :
‘วัฒนา’อาจพ้นผิด! ‘ศรีสุวรรณ’เปิดหลักฐานใหม่ ป.ป.ช.ตีตกข้อหา ส.อบต.คดีคลองด่าน
การศึกษาดีมีวุฒิภาวะ-วางแผนแยบยลซับซ้อน! เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาคดีคลองด่านจำคุก'วัฒนา-บ.เอกชน'
ศาลปค. พิพากษาสั่ง ‘วัฒนา' ชดใช้บำบัดน้ำเสียคลองด่าน 6.3 พันล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/