ผลกระทบโรคโควิดลามงานเก็บศพแล้ว! ล่าสุด มูลนิธิร่วมกตัญญู สั่งอาสาฯ ทุกเขตหยุดปฏิบัติงานช่วงเวลาเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม-ตี 4 คุมการแพร่ระบาดเชื้อโรคตามนโยบายรบ.ฐ จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง อีกหลายแห่งสั่งกักตัวจนท.หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ-จนท.กู้ภัยเริ่มโวยรัฐไม่เหลียวแลสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันตัว โควต้าซื้อหน้ากาก สพฉ. โดยยกเลิกปริศนา หลังเปลี่ยนมือมหาดไทย คุมแทนพาณิชย์
สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลประกาศยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกำหนดเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป โดยยกเว้นผู้มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ได้แก่ บุคคลากรทางการแพทย์ การขนส่งเวชภัณฑ์ การขนส่งผู้ป่วย การขนส่งด้านพลังงาน และการขนย้ายประชาชนสู่พื้นที่ควบคุม เป็นต้น (อ่านประกอบ : เคอร์ฟิว 4 ทุ่ม-ตี 4 'บิ๊กตู่'ยกระดับมาตรการสกัดโควิดฯ-เอาผิดแน่พวกรวมตัวกินดื่ม)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ล่าสุด มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้มีคำสั่งให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ทุกเขต หยุดการปฏิบัติงาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น. - 04.00 น. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ COVID-19 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ ยังมีมูลนิธิฯ หลายแห่งต้องประสบปัญหากักตัวเจ้าหน้าที่หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิดระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
โดยในส่วนมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม ได้ออกมาประกาศหยุดรับงานบริการทุกประเภทหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ทางหน่วยกู้ภัย ได้ออกไปรับผู้ปวย มีการติดเชื้อโควิด เพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเข้าสู่กระบวนการตรวจและกักกันโรคต่อไป
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน ต้องถูกกักตัว 14 ราย หลังจากเข้าไปเก็บศพชาวจังหวัดนราธิวาส อายุ 57 ปี บนรถไฟสายใต้ก่อนถึงสถานีรถไฟทับสะแกนั้น ผู้บริหารมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน ได้ออกประกาศมาตรการป้องกันปัญหา โดยกำหนดให้ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าไปปฏิบัติหน้าที่หลังจากทีมแพทย์ฉุกเฉินของหน่วยงานรัฐต้องเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุ หรือเข้าไปตรวจสอบพร้อมกัน และถ้าหากพบผู้ประสบเหตุเสียชีวิตจากเหตุใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องนำศพส่งไปชันสูตรและเก็บรักษาที่โรงพยาบาลจนกว่าญาติจะไปรับเพื่อนำไปประอบพิธีทางศาสนา ห้ามนำไปเก็บไว้ที่มูลนิธิอย่างเด็ดขาดเหมือนที่เคยปฎิบัติในอดีต
อย่างไรก็ดี ในการปฏิบัติหน้าที่กู้ภัย และเก็บศพ ของหน่วยกู้ภัย กลุ่มอาสาสมัคร หรือมูลนิธิเก็บศพต่างๆ ขณะนี้นั้น เริ่มมีเจ้าหน้าที่บางราย ออกแสดงความไม่พอใจต่อมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ในการสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือในการป้องกันตัวที่ยังขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในส่วนของหน้ากากอนามัย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสถาบันการแพทยน์ฉุกเฉิน (สพฉ.) จะได้รับการจัดสรรโควต้าการขอซื้อหน้ากากวันละ 18,000 ชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้กับมูลนิธิต่างๆ และมีการสั่งซื้อไปแล้ว
แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานจัดสรรหน้ากากใหม่ จากเดิมคือกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ มาเป็นกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงมหาดไทยแทน ส่งผลทำให้หน้ากากที่ สพฉ.สั่งซื้อไปต้องถูกยกเลิกไป โดยกระทรวงมหาดไทยแจ้งให้ สพฉ.ไปขอแบ่งโควต้าจากกระทรวงสาธารณสุขเอาเอง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/