เปิดรายละเอียดคำสั่งศาล รธน. 2 ฉบับ 5-6/2563 ไม่รับคำร้อง ‘เสรีพิศุทธ์-ลูกพรรคเสรีรวมไทย’ ปูดเพิ่มมี ส.ส. อีก 3 ราย พฤติการณ์เสียบบัตรแทนกันในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 63 แต่ศาลเห็นว่าร้องซ้ำ จึงตีตก ไม่วินิจฉัยกรณีอ้าง ครม.ถวายสัตย์ฯไม่ครบ
จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส. อย่างน้อย 4 ราย (ตามคำร้องฉบับแรก) นั้น ศาลเห็นว่ามีพฤติการณ์ไม่สุจริต ส่วนบุคคลใดจะต้องรับผิดโทษอย่างไรหรือไม่เป็นเรื่องต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป (อ่านประกอบ : พฤติการณ์ต่างจากปี 56-มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน!คำวินิจฉัยศาล รธน.ร่าง พ.ร.บ.งบฯได้ไปต่อ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 5/2563 และ 6/2563 โดยไม่รับคำร้องจาก น.ส.ธนภร โสมทองแดง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้วินิจฉัยกรณีการเสียบบัตรแทนกัน โดยมีการอ้างรายละเอียดจำนวน ส.ส. เพิ่มเติม และอ้างถึงกรณีการถวายสัตย์ฯของนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ด้วย
@คำร้อง ‘ลูกพรรคเสรีรวมไทย’ อ้างหลักฐานเพิ่มมี ส.ส. อีก 3 รายเสียบบัตรแทนกัน
สำหรับคำร้องฉบับที่ 6/2563 ยื่นโดย น.ส.ธรภร โสมทองแดง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และคณะรวม 80 คน ระบุว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 ในวาระที่ 2-3 ปราฏชื่อนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย และนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ร่วมลงมติ ทั้งที่ไม่ได้เข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งปรากฏคลิปจากสื่อมวลชนโดยอ้างว่าเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการลงมติเมื่อวันที่ 8 และ 10 ม.ค. 2563 ของ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 2 เสียบเข้าเครื่องออกเสียงลงคะแนนมากกว่า 1 ครั้ง โดยเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเสียบบัตรแสดงตนและลงมติแทนผู้อื่น
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2563 น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ นำหลักฐานเปิดเผยการเสียบบัตรแสดงตนและลงมติแทนนายภูมิศิษฏ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2563 นายภูมิศิษฏ์ คงมี ไม่ได้อยู่ในที่ประชุสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากมีตารางเที่ยวบินของสายการบินนกแอร์ ช่วงเวลา 20.50 น.-22.15 น. เดินทางจาก กทม. ไปหาดใหญ่ จ.สงขลา นอกจากนี้เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2563 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. อดีตพรรคอนาคตใหม่ นำคลิปภาพการเสียบบัตรแสดงตนและลงมติแทน น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากในวันและเวลาที่ลงมตินั้น พบว่า น.ส.ธนิกานต์ ร่วมงานแบ่งปันความรู้ในบทบาทแม่ยุคดิจิทัล ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ นอกจากนี้ยังพบว่านายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท กำลังเสียบบัตรแสดงตนและลงมติแทนผู้อื่นถึง 3 ใบ ด้วย
อย่างไรก็ดีศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า คำร้องดังกล่าวปรากฏเหตุแห่งคำร้องเป็นเหตุเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 2-3/2563 ไปแล้ว กรณีจึงไม่จำเป็นต้องรับคำร้องไว้พิจารณาอีก อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
@คำร้อง ‘เสรีพิศุทธิ์’ คนลงชื่อซ้ำ 30 คน ไม่เข้าเกณฑ์ ส.ส. 1 ใน 10 ของ 2 สภาถูกตีตกไป
ขณะที่คำร้องที่ 5/2563 ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และคณะรวม 82 คน คล้ายคลึงกับคำร้องของ น.ส.ธนภร โสมทองแดง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย แต่ศาลรัฐธรรมนูญตรวจคำร้องแล้วเห็นว่า ลายมือชื่อของ ส.ส. ผู้เสนอความเห็นดังกล่าวซ้ำกับคำร้องที่ 3/2563 จำนวน 30 คน ทำให้จำนวน ส.ส. ที่เข้าชื่อเสนอความเห็นนี้ไม่จำนวนไม่ถึง 1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ทั้งสองสภา (จำนวน 75 คน) กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (1) อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
@ยกปมไม่แสดงแหล่งที่มารายได้-ครม.ถวายสัตย์ฯไม่ครบ แต่ศาลไม่ได้วินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากประเด็นการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส. ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 ซึ่งมีรายชื่อเพิ่มเติมจากคำร้องที่ 2-3/2563 ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไปแล้วนั้น คำร้องของ น.ส.ธนภร และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงกรณีคณะรัฐมนตรีผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯฉบับนี้ ไม่ได้แสดงแหล่งที่มาและประมาณการรายได้ต่อสภาผู้แทนราษฎร จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 142 รวมถึงการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทำให้ไม่สามารถเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาพิจารณาได้ จึงขอให้ส่งความเห็นนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ด้วย
อย่างไรก็ดีศาลรัฐธรรมนูญมิได้ระบุ หรือวินิจฉัยเกี่ยวกับประเด็นนี้แต่อย่างใด โดยให้ความเห็นเพียงว่า มีคำสั่งไม่รับคำร้องเพราะรายละเอียดคำร้องซ้ำกับคำวินิจฉัยที่ 2-3/2563 ดังกล่าว
อ่านประกอบ :
พฤติการณ์ต่างจากปี 56-มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน!คำวินิจฉัยศาล รธน.ร่าง พ.ร.บ.งบฯได้ไปต่อ
เปิดชื่อตุลาการศาล รธน.ลงมติ 5:4 ร่าง พ.ร.บ.งบฯไม่โมฆะ-ให้โหวตใหม่วาระ 2-3
อีกคดี!ปมเสียบบัตรแทนแก้ที่มา ส.ว. ปี 56-ศาล รธน.สั่งโมฆะ วัดบรรทัดฐานการเมืองไทย?
‘ศรีสุวรรณ’ร้อง ป.ป.ช.สอบ ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน อาจเข้าข่ายทุจริต-ขัดกันแห่งผล ปย.
คำร้อง ปธ.สภาฯถึงศาล รธน.แล้ว! ขอให้วินิจฉัยปม 4 ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน
เทียบยุคก่อนไม่ได้! ปธ.ป.ป.ช.ชี้ปมเสียบบัตรแทนข้อเท็จจริงอาจต่างกัน-แบะท่ารอรับคำร้อง
90 ส.ส.ชง ปธ.สภาฯส่งศาล รธน.วินิจฉัยปมเสียบบัตรแทนกันตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ
ล้วงคำวินิจฉัยศาล รธน.ปม ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน-ผ่าน 7 ปีเกิดขึ้นซ้ำรอดูบรรทัดฐาน?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/