“..จึงมีผลให้การออกเสียงลงคะแนนของรัฐสภาในการประชุมนั้น ๆ เป็นการออกเสียงลงคะแนนที่ทุจริต ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้แทนปวงชนชาวไทย เนื่องมาจากกระบวนการลงคะแนนเสียงที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมของรัฐสภา และขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังที่ได้ระบุมาแล้วข้างต้น มิอาจถือว่าเป็นมติที่ชอบของรัฐสภาในกระบวนการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม…”
กรณีฉาวการเสียบบัตรแทนกันในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 กำลังร้อนแรง !
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นขณะนี้มี ส.ส. อย่างน้อย 4 ราย แบ่งเป็น ส.ส. พรรคภูมิใจไทย 2 ราย ที่ตัวไม่อยู่ในที่ประชุม แต่มีชื่อลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 ในวาระ 2 และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ 2 ราย ที่ปรากฏภาพจากสื่อมวลชนว่า ถือบัตรหลายใบ และเสียบบัตรแทนให้ ส.ส. รายอื่น
ร้อนถึง 90 ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ยื่นเรื่องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยกรณีดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา ฝ่ายธุรการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องไว้แล้ว คาดว่าน่าจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้า (อ่านประกอบ : คำร้อง ปธ.สภาฯถึงศาล รธน.แล้ว! ขอให้วินิจฉัยปม 4 ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน)
อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เจ้าของฉายาจากสื่อประจำทำเนียบรัฐบาลปี 2563 ‘ศรีธนญชัยรอดช่อง’ ออกมาให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า การเสียบบัตรแทนกันในปัจจุบัน ไม่สามารถเทียบกับการเสียบบัตรแทนกันเมื่อปี 2556 ได้ เพราะข้อเท็จจริงแตกต่างกัน นอกจากนี้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 อาจไม่โมฆะทั้งฉบับ โดยอาศัยรัฐธรรมนูญ มาตรา 143 ที่เขียนว่า หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายใน 105 วัน ให้ถือว่าสภาเห็นชอบ (อ้างอิงข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์)
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการเสียบบัตรแทนกันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2556 ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. …. หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ฯ 2 ล้านล้านบาท ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายนริศร ทองธิราช เมื่อครั้งเป็น ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย มีพฤติการณ์เสียบบัตรแทนกัน ทำให้ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ฯ ดังกล่าว ต้อง ‘โมฆะ’ ทั้งฉบับไปแล้ว (อ่านประกอบ : ล้วงคำวินิจฉัยศาล รธน.ปม ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน-ผ่าน 7 ปีเกิดขึ้นซ้ำรอดูบรรทัดฐาน?)
แต่การเสียบบัตรแทนกันเมื่อปี 2556 มิใช่เกิดขึ้นแค่กรณีข้างต้นครั้งเดียว ยังมีอีกในการประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. ด้วย ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ทราบ ดังนี้
(การประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขที่มาของ ส.ว. เมื่อปี 2556 เป็นชนวนเหตุความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง)
@ส.ส.นริศร คนเดิมเสียบบัตรแทนกันซ้ำรอย ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินฯ
ประเด็นนี้บรรดาฝ่ายค้าน (นำโดยพรรคประชาธิปัตย์) และกลุ่ม ’40 ส.ว.’ ขณะนั้น ได้ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. เมื่อปี 2556 มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญหลายประการ โดยประเด็นสำคัญคือปรากฏคลิปวีดิทัศน์ว่า นายนริศร ทองธิราช มีพฤติการณ์เสียบบัตรแทนกัน ซ้ำรอยร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ฯ 2 ล้านล้านบาท
ศาลรัฐธรรมนูญ เปิดคลิปวีดิทัศน์ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานประกอบคำร้อง สรุปได้ว่า นายนริศร ถือบัตรในมือหลายใบ และใช้บัตรของ ส.ส. รายอื่น แสดงตน และลงมติ หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่ง เพราะทราบว่า คนของพรรคฝ่ายค้านแอบถ่ายภาพ และวีดิทัศน์อยู่ โดยมีพยานยืนยันว่า ระบบการยืนยันตัวตนด้วยบัตรแสดงตนและลงคะแนนของที่ประชุมสภาฯ (ขณะนั้น) ช่องอ่านบัตรจะนำบัตรมาใช้กี่ใบก็ได้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ช่องอ่านบัตรดังกล่าวมีการใช้บัตรกี่ครั้ง หรือใช้บัตรใบอื่นในช่องเดิมหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้ว เห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องมีประจักษ์พยานผู้เห็นเหตุการณ์มาเบิกความ พร้อมทั้งมีพยานหลักฐานสำคัญมาแสดงคือ คลิปวีดิทัศน์บันทึกภาพเหตุการณ์กระทำดังกล่าวถึง 3 ตอน ที่แสดงให้เห็นว่า มีสมาชิกรัฐสภาบางคนใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติแทนผู้อื่น ในเครื่องออกเสียงลงคะแนนระหว่างที่มีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.
โดยพยานหลายรายเบิกความว่า ในขณะนั้นมีบุคคลที่ปรากฏตามคลิปวีดิทัศน์ กระทำการใช้บัตรแสดงตนใส่เข้าไปในเครื่องออกเสียงลงคะแนน และกดปุ่มเพื่อแสดงตนและลงมติคราวละหลายใบ ซึ่งขัดหรือแย้งกับหลักการและวิธีการที่ถูกต้องในเรื่องนี้ โดยบุคคลในคลิปวีดิทัศน์ ได้ใช้บัตรแสดงตนและออกเสียงลงคะแนนคราวละหลายใบ หมุนเวียนใส่เข้าไปในเครื่องอ่านบัตร และกดปุ่มแสดงตนติดต่อกันหลายครั้ง
(คำวินิจฉัยตอนหนึ่งของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการเสียบบัตรแทนกันในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.)
@ศาล รธน.ชี้ชัดเป็นการทุจริต ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายที่พยานนำสืบต่อศาลรัฐธรรมนูญ เห็นภาพบุคคลปรากฏใบหน้าด้านข้าง สามารถยืนยันได้ว่าเป็น นายนริศร ทองธิราช ซึ่งสวมสูทสีเดียวกับภาพที่ปรากฏในคลิปวีดิทัศน์ ที่ถือบัตรแสดงตนและลงคะแนนไว้ในมือจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากกว่า 2 ใบ เกินกว่าจำนวนบัตรแสดงตนที่สมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งจะพึงมีได้ และยังใช้บัตรดังกล่าวใส่เข้าออกในช่องอ่านบัตรพร้อมกดปุ่มบนเครื่องอ่านต่อเนื่องกันทุกบัตร
เห็นว่า การกระทำเช่นนี้ มีลักษณะที่ผิดปกติวิสัยและมีสมาชิกรัฐสภาใช้บัตรแสดงตนและออกเสียงลงคะแนนหลายใบ จากการรับฟังพยานหลักฐานและคำเบิกความพยานในชั้นการพิจารณาไต่สวนคำร้องเป็นเรื่องที่แจ้งประจักษ์ชัดทั้งภาพวีดิทัศน์ และประจักษ์พยานเบิกความ ประกอบการถ่ายทอดการประชุมรัฐสภาระหว่างมีการออกเสียงลงประชามติว่า มีสมาชิกรัฐสภาหลายรายมิได้มาออกเสียงลงมติในที่ประชุมรัฐสภาในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ แต่ได้มอบให้สมาชิกรัฐสภาบางรายใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนแทน การดำเนินการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของการเป็นสมาชิกรัฐสภาซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย จะต้องปฏิบัติหน้าที่โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายหรือครอบงำใด ๆ และต้องปฏิบัติด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย ปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ยังขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ขัดต่อหลักความซื่อสัตย์สุจริตที่สมาชิกรัฐสภาได้ปฏิญาณตนไว้ และขัดต่อหลักการออกเสียงลงคะแนน ที่ให้สมาชิกคนหนึ่งมีเพียงเสียงหนึ่งเสียงในการออกเสียงลงคะแนน
จึงมีผลให้การออกเสียงลงคะแนนของรัฐสภาในการประชุมนั้น ๆ เป็นการออกเสียงลงคะแนนที่ทุจริต ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้แทนปวงชนชาวไทย เนื่องมาจากกระบวนการลงคะแนนเสียงที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมของรัฐสภา และขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังที่ได้ระบุมาแล้วข้างต้น มิอาจถือว่าเป็นมติที่ชอบของรัฐสภาในกระบวนการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม
ท้ายที่สุดศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เห็นว่า การพิจารณาและลงมติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
นับเป็นอีกหนึ่งบรรทัดฐานอีกคดี เกี่ยวกับกรณีการเสียบบัตรแทนกันที่กำลังร้อนฉ่าทางการเมืองอยู่ตอนนี้ และพฤติการณ์ล่าสุด จะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 ‘โมฆะ’ ซ้ำรอยร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ฯ 2 ล้านล้านบาท และร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มา ส.ว. หรือไม่ ต้องติดตาม !
อ่านประกอบ :
‘ศรีสุวรรณ’ร้อง ป.ป.ช.สอบ ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน อาจเข้าข่ายทุจริต-ขัดกันแห่งผล ปย.
คำร้อง ปธ.สภาฯถึงศาล รธน.แล้ว! ขอให้วินิจฉัยปม 4 ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน
เทียบยุคก่อนไม่ได้! ปธ.ป.ป.ช.ชี้ปมเสียบบัตรแทนข้อเท็จจริงอาจต่างกัน-แบะท่ารอรับคำร้อง
90 ส.ส.ชง ปธ.สภาฯส่งศาล รธน.วินิจฉัยปมเสียบบัตรแทนกันตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ
ล้วงคำวินิจฉัยศาล รธน.ปม ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน-ผ่าน 7 ปีเกิดขึ้นซ้ำรอดูบรรทัดฐาน?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/